ผู้จัดการรายวัน- ผู้ค้าน้ำมันอั้นขึ้นดีเซลหวั่นทะลุ 30 บาทกระทบขนส่ง ขอดูตลาดสิงคโปร์ 1-2 วันหากยังไม่มีวี่แววลงอาจจำเป็นต้องปรับราคาขายเพิ่มอีกปลายสัปดาห์นี้
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บมจ.บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า ราคาดีเซลตลาดสิงคโปร์เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2.21 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 110.66 เหรียญต่อบาร์เรลตามทิศทางน้ำมันดิบตลาดโลกส่งผลให้ค่าการตลาดลดต่ำไม่ถึง 1 บาทต่อลิตร ดังนั้นผู้ค้าจะขอดูราคาปิดตลาดสิงคโปร์อีก 1-2 วันหากยังคงมีทิศทางเพิ่มขึ้นโอกาสที่ราคาดีเซลจะปรับอีก 40 สตางค์ต่อลิตรในปลายสัปดาห์นี้ก็จะมีสูงซึ่งจะทำให้ดีเซลไปอยู่ที่ระดับ 30.14 บาทต่อลิตร
“ หากดูค่าการตลาดเพียงวันเดียวจะเห็นว่ายังพอจะสูงอยู่แต่ควรจะต้องพิจารณาเป็นสัปดาห์เฉลี่ยวันที่ 1-9 ม.ค.ที่ค่าการตลาดเฉลี่ยที่ 60-70 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้น ซึ่งผู้ค้าเองหากดูเช่นนี้ก็ควรจะปรับขึ้น แต่ก็เห็นว่าดีเซลที่จะทะลุ 30 บาทไปนั้นจะมีผลกระทบต่อค่าขนส่งผู้ค้าน้ำมันจึงพยายามที่จะตรึงไว้เพื่อดูตลาดโลกซึ่งหวังว่าจะลดลงมาอีก”นายยอดพจน์กล่าว
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ต่างประเทศส่วนใหญ่ยังเห็นพ้องกันว่า ทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงผันผวนระดับสูงในไตรมาสแรกเนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูหนาวที่ทำให้เกิดความต้องการดีเซลเพิ่มอยู่ ทิศทางดีเซลตลาดโลกจึงยังคงมีแนวโน้มราคาทรงตัวระดับสูง อย่างไรก็ตาม ปกติทุกปีเบนซินจะมีราคาต่ำในช่วงนี้เพราะความต้องการจะลดลงจนกว่าจะย่างสู่ฤดูร้อนแต่ปรากฏว่าปีนี้เบนซินกลับมีราคาสูงตามทิศทางดีเซลซึ่งสาเหตุหลักมาจากจีนส่งออกลดลง
นายณอคุณ สิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟ ที กล่าวว่า วันที่ 13 ก.พ.นี้จะพิจารณาค่าเอฟทีงวดใหม่(ก.พ.-พ.ค.) ซึ่งยอมรับว่าจะปรับขึ้นเล็กน้อยแต่ตัวเลขเท่าใดคงต้องขอดูต้นทุนบริหารรวมก่อน แต่เฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นต้นทุนหลักในการผลิตไฟฟ้าขยับจากประมาณการเดิมถึง 11 บาท /ล้านบีทียู โดยปรับมาอยู่ที่ 209 บาท/ล้านบีทียู ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของราคาก๊าซทุก 10 บาทจะมีผลต่อค่าไฟฟ้าประมาณ 6 สตางค์ต่อหน่วยแต่ต้องดูต้นทุนด้านอื่นเช่น ค่าเงินบาทที่อาจมีผลให้ลดลงอีก
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอล กล่าวว่า ราคาเอทานอลไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ระดับ 17.28 บาทต่อลิตรแต่ราคาซื้อขายจริงอยู่ที่เพียง 14 บาทต่อลิตรเท่านั้นเนื่องจากการผลิตเกินความต้องการอยู่สูงซึ่งหากผลิตเต็มที่จะอยู่ที่ 1.2 ล้านลิตรต่อวันแต่ความต้องการใช้มีเพียง 7.5 แสนลิตรต่อวันเท่านั้น
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บมจ.บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า ราคาดีเซลตลาดสิงคโปร์เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2.21 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 110.66 เหรียญต่อบาร์เรลตามทิศทางน้ำมันดิบตลาดโลกส่งผลให้ค่าการตลาดลดต่ำไม่ถึง 1 บาทต่อลิตร ดังนั้นผู้ค้าจะขอดูราคาปิดตลาดสิงคโปร์อีก 1-2 วันหากยังคงมีทิศทางเพิ่มขึ้นโอกาสที่ราคาดีเซลจะปรับอีก 40 สตางค์ต่อลิตรในปลายสัปดาห์นี้ก็จะมีสูงซึ่งจะทำให้ดีเซลไปอยู่ที่ระดับ 30.14 บาทต่อลิตร
“ หากดูค่าการตลาดเพียงวันเดียวจะเห็นว่ายังพอจะสูงอยู่แต่ควรจะต้องพิจารณาเป็นสัปดาห์เฉลี่ยวันที่ 1-9 ม.ค.ที่ค่าการตลาดเฉลี่ยที่ 60-70 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้น ซึ่งผู้ค้าเองหากดูเช่นนี้ก็ควรจะปรับขึ้น แต่ก็เห็นว่าดีเซลที่จะทะลุ 30 บาทไปนั้นจะมีผลกระทบต่อค่าขนส่งผู้ค้าน้ำมันจึงพยายามที่จะตรึงไว้เพื่อดูตลาดโลกซึ่งหวังว่าจะลดลงมาอีก”นายยอดพจน์กล่าว
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ต่างประเทศส่วนใหญ่ยังเห็นพ้องกันว่า ทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงผันผวนระดับสูงในไตรมาสแรกเนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูหนาวที่ทำให้เกิดความต้องการดีเซลเพิ่มอยู่ ทิศทางดีเซลตลาดโลกจึงยังคงมีแนวโน้มราคาทรงตัวระดับสูง อย่างไรก็ตาม ปกติทุกปีเบนซินจะมีราคาต่ำในช่วงนี้เพราะความต้องการจะลดลงจนกว่าจะย่างสู่ฤดูร้อนแต่ปรากฏว่าปีนี้เบนซินกลับมีราคาสูงตามทิศทางดีเซลซึ่งสาเหตุหลักมาจากจีนส่งออกลดลง
นายณอคุณ สิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟ ที กล่าวว่า วันที่ 13 ก.พ.นี้จะพิจารณาค่าเอฟทีงวดใหม่(ก.พ.-พ.ค.) ซึ่งยอมรับว่าจะปรับขึ้นเล็กน้อยแต่ตัวเลขเท่าใดคงต้องขอดูต้นทุนบริหารรวมก่อน แต่เฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นต้นทุนหลักในการผลิตไฟฟ้าขยับจากประมาณการเดิมถึง 11 บาท /ล้านบีทียู โดยปรับมาอยู่ที่ 209 บาท/ล้านบีทียู ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของราคาก๊าซทุก 10 บาทจะมีผลต่อค่าไฟฟ้าประมาณ 6 สตางค์ต่อหน่วยแต่ต้องดูต้นทุนด้านอื่นเช่น ค่าเงินบาทที่อาจมีผลให้ลดลงอีก
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอล กล่าวว่า ราคาเอทานอลไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ระดับ 17.28 บาทต่อลิตรแต่ราคาซื้อขายจริงอยู่ที่เพียง 14 บาทต่อลิตรเท่านั้นเนื่องจากการผลิตเกินความต้องการอยู่สูงซึ่งหากผลิตเต็มที่จะอยู่ที่ 1.2 ล้านลิตรต่อวันแต่ความต้องการใช้มีเพียง 7.5 แสนลิตรต่อวันเท่านั้น