xs
xsm
sm
md
lg

หั่นเอฟทีไฟฟ้าเหลือ 2.75 สต./หน่วย “เมียสุวัจน์” โชว์ล็อบบี้ ปตท.สำเร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กฟผ.ยอมลดค่าเอฟทีไฟฟ้างวดล่าสุด (ก.พ.-พ.ค.) เหลือแค่ 2.75 สต./หน่วย หลัง “เมียสุวัจน์” โชว์ออฟวิ่งล็อบบี้ ปตท.ได้สำเร็จ พร้อมสั่งกระทรวงพลังงาน หาวีธีเพิ่มปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ น้ำในเขื่อน ทดแทนการผลิตจากน้ำมัน

วันนี้ (13 ก.พ.) มีรายงานแจ้งว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูอัตราค่าไฟฟ้าและบริการแบบอัตโนมัติ (เอฟที) ได้ตัดสินขึ้นค่าเอฟทีไฟฟ้างวดใหม่ ก.พ.-พ.ค.นี้ จำนวน2.75 สต./หน่วย เรียบร้อยแล้ว จากปัจจุบันค่าเอฟทีอยู่ที่หน่วยละ 66.11 สตางค์ โดยก่อนหน้านี้ พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เข้ามาสั่งการให้นายณอคุณ สิทธิพงษ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานบอร์ดค่าเอฟที หาวิธีปรับลดค่าไฟฟ้า หลังต้นทุนค่าเงินบาทปรับลดลง และสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำได้เพิ่มขึ้น

สำหรับประมาณการค่าเอฟที่เดิมในงวดเดือน ก.พ.-พ.ค. คาดว่าจะเพิ่ม 5.28 สต./หน่วย เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แต่ขณะนี้ค่าเงินบาททรงตัวเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าไฟฟ้าก็ควรปรับลงมาประมาณ 3 สต./หน่วย (เพราะทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าจะมีผลต่อค่าเอฟที 3 สต./หน่วย)

ขณะเดียวกัน เนื่องจากเป็นช่วงหน้าร้อน ฝนตกน้อย ความต้องการน้ำของเกษตรกรจะสูงขึ้น ทางผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะไปประสานงานกับกรมชลประทานว่ามีแผนปล่อยน้ำเพิ่มมากน้อยเพียงใด ซึ่งเมื่อปล่อยน้ำเพิ่ม การผลิตไฟฟ้าจากน้ำจะเพิ่มขึ้นและยิ่งทำให้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าลดลงไปด้วย

นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ไปพิจารณาเร่งเรื่องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นจากแหล่งเจดีเอและแหล่งอาทิตย์ หากใช้ก๊าซฯ เพิ่มก็จะลดการใช้น้ำมันในการผลิตไฟฟ้าต้นทุนก็จะถูกไปด้วย

“ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดนี้คงเพิ่มขึ้นบ้าง แต่มีข่าวดีคือเพิ่มน้อยกว่าคาดการณ์เดิม นับว่าเป็นเรื่องที่จะช่วยลดภาระประชาชนได้ส่วนหนึ่ง และเป็นเรื่องเร่งด่วนเรื่องแรกที่จะต้องเข้ามาทำ อย่างไรก็ตาม ช่วงหน้าร้อนเป็นช่วงพีค (ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด) ก็ต้องขอความร่วมมือประชาชนในการประหยัดไฟฟ้าด้วย เพราะยิ่งใช้ไฟฟ้ามากเท่าไหร่ก็จะยิ่งจ่ายเพิ่มและระบบผลิตก็อาจจำเป็นต้องใช้น้ำมัน ค่าไฟเอฟทีก็จะเพิ่มขึ้นด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว

พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ กล่าวด้วยว่า การเข้ามาดูแลค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดนี้จะไม่สร้างภาระเพิ่มต่อ กฟผ. และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพราะเป็นเพียงการปรับเรื่องผลกระทบค่าเงินบาทและการใช้น้ำผลิตไฟฟ้าเพิ่ม และตนไม่มีนโยบายที่จะตรึงราคาก๊าซธรรมชาติ ส่วนเรื่องราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้ม ก็เป็นเรื่องที่จะต้องเข้ามาดูโครงสร้างราคา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชน แต่ก็ต้องดูการพัฒนาที่ยั่งยืนควบคู่กันไปด้วย ทั้งนี้ ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดปัจจุบันอยู่ที่ 66.11 สต./หน่วย ซึ่งเป็นที่คาดว่าอนุกรรมการเอฟทีอาจจะปรับเพิ่มประมาณ 2 สต./หน่วย.

นายมารุต มฤคทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้รับนโยบายเรื่องการช่วยตรึงราคาก๊าซธรรมชาติ เพื่อทำให้ค่าไฟฟ้าไม่ขยับขึ้นในอนาคตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและหากมีนโยบายดังกล่าวจริงก็คงจะต้องผ่านปตท. เพราะปตท.เป็นผู้ซื้อก๊าซธรรมชาติ จาก ปตท.สผ.

“หากจะให้ช่วยรับภาระก็คงจะต้องพิจารณาถึงผลกระทบผู้ถือหุ้นรายย่อยด้วย ซึ่งหากจะ ทำได้ก็คงเหมือนในอดีตที่เป็นลักษณะของรูปแบบได้ผลประโยชน์ทุกฝ่ายร่วมกัน คือเมื่อมีส่วนลดราคาก๊าซฯ แล้ว ก็ต้องมาพิจารณาถึงเรื่องการรับซื้อก๊าซฯ ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต” นายมารุต กล่าว

ทั้งนี้ ราคาก๊าซธรรมชาติเป็นสูตรที่รวมกันระหว่างราคาก๊าซพม่าและอ่าวไทยที่เป็นสูตรผันตามราคาน้ำมันช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และราคาก๊าซฯ ได้ปรับสูงขึ้น โดยไตรมาส 3 ปี 2550 ราคาอยู่ที่ 4.3 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู ส่วนไตรมาส 4 ขยับขึ้นเป็น 5.09 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู ซึ่งเป็นที่คาดว่าราคาก๊าซฯ ปีนี้จะขยับขึ้นตลอดทั้งปีตามราคาน้ำมันปีที่แล้วที่ขยับขึ้นถึง 90-100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
กำลังโหลดความคิดเห็น