นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันและอดีตผู้บริหาร บมจ.บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้ามีโอกาสสูงที่ผู้ค้าน้ำมันจะทำการปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล และเบนซิน เนื่องจากราคาเบนซินและดีเซลตลาดสิงคโปร์ได้ปรับเพิ่มขึ้นตามน้ำมันดิบตลาดโลกต่อเนื่อง ล่าสุดปิดตลาดวันที่ 3 ม.ค.โดยเบนซิน 95 ปรับขึ้น 2.95 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซล 2.17 เหรียญต่อบาร์เรลส่งผลให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันติดลบแล้ว ดังนั้นหากผู้ค้าปรับขึ้นอีก 40 สตางค์ต่อลิตรจะส่งผลให้ดีเซลทะลุ 30 บาทต่อลิตรเป็น 30.14 บาทต่อลิตร ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"ประชาชนควรหันมาใช้พลังงานทางเลือกอย่างแก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซลที่มีราคาต่ำ เพื่อลดภาระการใช้จ่ายซึ่งผู้ค้าน้ำมันที่ผ่านมาถือว่ามีการตรึงราคาโดยไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนตลาดโลกอย่างแท้จริง รวมไปถึงค่าเงินบาทไทยแข็งค่า จึงทำให้ราคาขายปลีกในไทยปรับขึ้นเพียง 30% ขณะที่ราคาตลาดโลกปรับขึ้นไปแล้วกว่า 50-60%"นายมนูญกล่าว
รายงานข่าวจาก บมจ.ไทยออยล์ แจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบโลกปิดตลาดวันที่ 3 ม.ค. โอมานขึ้น 2.97 เหรียญต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 92.35 เหรียญฯต่อบาร์เรล ดูไบขึ้น 2.78 เหรียญต่อบาร์เรล ทาปิส ขึ้น 3.06 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 102.61 เหรียญต่อบาร์เรล เวสต์เท็กซัส ลดลง 0.45 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 99.06 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ตลาดสิงคโปร์ เบนซิน 95 ขึ้น 2.95 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 106.89 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซลขึ้น 2.17 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 112.28 เหรียญต่อบาร์เรล
**ค่าไฟก.พ.นี้จ่อขึ้นอีก4-5 ส.ต.
แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการกำกับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ เอฟที กล่าวว่า แนวโน้มค่าเอฟทีงวดใหม่ (ก.พ.-พ.ค.51) จะสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยจากระดับราคาน้ำมันที่สะท้อนในราคาก๊าซธรรมชาติส่งผลให้ราคาก๊าซฯที่ผลิตไฟปรับขึ้นจากระดับ 195 บาทต่อล้านบีทียู มาอยู่ระดับประมาณ 202 บาทต่อล้านบีทียู ซึ่งจะกระทบให้ค่าเอฟทีเพิ่มขึ้นระดับ 4-5 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คงจะต้องไปดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย โดยเฉพาะการบริหารจัดการจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ว่าจะลดต้นทุนการผลิตจากส่วนใดมาชดเชยได้บ้าง
นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าฯ กฟผ.กล่าวว่า ยอมรับว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่องมีผลสะท้อนไปยังราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงการผลิตไฟส่วนใหญ่ถึง 70% ปรับตัวสูงตามแต่ราคาก๊าซฯจะสะท้อนย้อนหลัง 6 เดือนจึงทำให้การปรับขึ้นไม่มากนัก ดังนั้นราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงแตะระดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรล ก็จะสะท้อนไปยังราคาก๊าซในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งคงจะต้องติดตามราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้พิจารณาเรื่องค่าไฟฟ้าจะอนุมัติปรับขึ้นลงเท่าใดนั้น คือ อนุกรรมการเอฟที จึงระบุไม่ได้ว่าค่าเอฟทีงวดใหม่จะเป็นเท่าใด
นายสมบัติ กล่าวว่า เพื่อลดผลกระทบต่อค่าไฟที่อาจเพิ่มขึ้น กฟผ.ได้บริหารจัดงานให้ค่าไฟฟ้ามีต้นทุนการผลิตที่ต่ำที่สุด ด้วยการสั่งเดินเครื่องจากโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนผลิตต่ำที่สุดก่อน เช่นโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ โรงไฟฟ้าวังน้อย โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้า ไอพีพี เป็นต้น ในขณะที่เดียวกัน กฟผ.ได้บำรุงรักษาโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ให้พร้อมเดินเครื่องเต็มที่ ซึ่งคาดปีนี้จะผลิตไฟฟ้าได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วคือ 18,000 ล้านหน่วย
"ประชาชนควรหันมาใช้พลังงานทางเลือกอย่างแก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซลที่มีราคาต่ำ เพื่อลดภาระการใช้จ่ายซึ่งผู้ค้าน้ำมันที่ผ่านมาถือว่ามีการตรึงราคาโดยไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนตลาดโลกอย่างแท้จริง รวมไปถึงค่าเงินบาทไทยแข็งค่า จึงทำให้ราคาขายปลีกในไทยปรับขึ้นเพียง 30% ขณะที่ราคาตลาดโลกปรับขึ้นไปแล้วกว่า 50-60%"นายมนูญกล่าว
รายงานข่าวจาก บมจ.ไทยออยล์ แจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบโลกปิดตลาดวันที่ 3 ม.ค. โอมานขึ้น 2.97 เหรียญต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 92.35 เหรียญฯต่อบาร์เรล ดูไบขึ้น 2.78 เหรียญต่อบาร์เรล ทาปิส ขึ้น 3.06 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 102.61 เหรียญต่อบาร์เรล เวสต์เท็กซัส ลดลง 0.45 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 99.06 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ตลาดสิงคโปร์ เบนซิน 95 ขึ้น 2.95 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 106.89 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซลขึ้น 2.17 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 112.28 เหรียญต่อบาร์เรล
**ค่าไฟก.พ.นี้จ่อขึ้นอีก4-5 ส.ต.
แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการกำกับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ เอฟที กล่าวว่า แนวโน้มค่าเอฟทีงวดใหม่ (ก.พ.-พ.ค.51) จะสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยจากระดับราคาน้ำมันที่สะท้อนในราคาก๊าซธรรมชาติส่งผลให้ราคาก๊าซฯที่ผลิตไฟปรับขึ้นจากระดับ 195 บาทต่อล้านบีทียู มาอยู่ระดับประมาณ 202 บาทต่อล้านบีทียู ซึ่งจะกระทบให้ค่าเอฟทีเพิ่มขึ้นระดับ 4-5 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คงจะต้องไปดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย โดยเฉพาะการบริหารจัดการจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ว่าจะลดต้นทุนการผลิตจากส่วนใดมาชดเชยได้บ้าง
นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าฯ กฟผ.กล่าวว่า ยอมรับว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่องมีผลสะท้อนไปยังราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงการผลิตไฟส่วนใหญ่ถึง 70% ปรับตัวสูงตามแต่ราคาก๊าซฯจะสะท้อนย้อนหลัง 6 เดือนจึงทำให้การปรับขึ้นไม่มากนัก ดังนั้นราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงแตะระดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรล ก็จะสะท้อนไปยังราคาก๊าซในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งคงจะต้องติดตามราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้พิจารณาเรื่องค่าไฟฟ้าจะอนุมัติปรับขึ้นลงเท่าใดนั้น คือ อนุกรรมการเอฟที จึงระบุไม่ได้ว่าค่าเอฟทีงวดใหม่จะเป็นเท่าใด
นายสมบัติ กล่าวว่า เพื่อลดผลกระทบต่อค่าไฟที่อาจเพิ่มขึ้น กฟผ.ได้บริหารจัดงานให้ค่าไฟฟ้ามีต้นทุนการผลิตที่ต่ำที่สุด ด้วยการสั่งเดินเครื่องจากโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนผลิตต่ำที่สุดก่อน เช่นโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ โรงไฟฟ้าวังน้อย โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้า ไอพีพี เป็นต้น ในขณะที่เดียวกัน กฟผ.ได้บำรุงรักษาโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ให้พร้อมเดินเครื่องเต็มที่ ซึ่งคาดปีนี้จะผลิตไฟฟ้าได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วคือ 18,000 ล้านหน่วย
