xs
xsm
sm
md
lg

เฉ่งแบงก์ชาติอ่อนเชิงคุมบาท "ฉลองภพ"เต้นสั่งสู้นักเก็งกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รัฐมนตรีคลังกินดีหมีบี้แบงก์ชาติเปลี่ยนวิธีการบริหารค่าเงินบาท หลังทำสถิติแข็งค่ารายวันตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ หวั่นเก็งกำไรกระหน่ำ บิ๊กแบงก์ชาติเผย "ธาริษา" ชี้แจง รมว.คลังแล้ว สอนมวยอย่าดูค่าบาทรายวัน เผยครึ่งปีหลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่าหนุนบาทฟื้น ขณะที่วานนี้เงินบาทต่อดดอลาร์ 33.16 แข็งค่าสุดเมื่อเทียบกับค่าเงินในภูมิภาค โดยตั้งแต่ต้นปีแข็งค่าขึ้น 1.5%

วานนี้ (10 ม.ค.) นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วิจารณ์การทำงานของผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนว่า ทิศทางการบริหารค่าเงินเป็นไปในทิศทางเดียวมากเกินไป โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ตลาดและนักเก็งกำไรสามารถคาดการณ์และจับทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทล่วงหน้าได้ ถือว่าไม่เป็นผลดี ดังนั้นควรมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และได้มีการสั่งการไปแล้ว

"เท่าที่ติดตามดูเห็นว่าอัตราแลกเปลี่ยนในวันนี้ เริ่มดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ดีมากนัก ผมกำชับกับแบงก์ชาติไปแล้วว่า ต้องดูแลและบริหารอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเต็มที่ การบริหารอัตราแลก เปลี่ยนนั้นสิ่งสำคัญ คือ อย่าบริหารให้มันไปทางเดียวกันตลอด จนตลาดสามารถคาดการณ์ได้ ถ้าคนเขารู้ว่ามันไปทางไหน เขาก็สามารถเข้ามาเก็งกำไรได้ " นายฉลองภพกล่าวและว่า มีสองช่วง ที่ ธปท.บริหารอัตราแลกเปลี่ยนไม่มีดีเท่าที่ควร คือ ช่วงเดือนกรกฏา 2550 และช่วงตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา

นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าฯ ธปท. ได้รายงานและชี้แจง รมว.คลัง แล้ว การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าเกิดจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า เชื่อว่าครึ่งปีหลังดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าได้ เงินบาทก็จะอ่อนตัว

นางสุชาดาเห็นว่า การมองค่าเงินบาทต้องดูเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์หรือญี่ปุ่นที่แข็งค่าเช่นกัน ที่สำคัญต้องดูดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริง ไม่ใช่ดูค่าเงินรายวัน หากพิจารณาดัชนีค่าเงินบาทก็จะพบว่าการแข็งค่าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ในตลาดโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเทียบค่าเงินบาทกับดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ ธปท.เข้าแทรกแซงค่าเงินบาททุกวัน และเมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ แข็งค่าต้นปีแล้ว 1.5% หรือแข็งค่าจาก 33.68 บาทต่อดอลลาร์ (ณ สิ้นปี 2550) มาอยู่ที่ 33.16 บาทต่อดอลลาร์ (10 ม.ค.) ที่สำคัญแข็งค่าสุดในภูมิภาค

นักค้าเงินจากธนาคารกรุงเทพกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวานนี้ (10 ม.ค.) ยังคงแข็งค่าขึ้นแต่มีปริมาณธุรกรรมที่น้อยลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า และยังคงมีแรงขายดอลลาร์ออกมาจากผู้ส่งออกเป็นหลัก โดยเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.16-33.21 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงเปิดตลาดที่ระดับ 33.16-33.21 บาทดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.16-33.18 บาทดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าเงินบาทในวันนี้ (11 ม.ค.) น่าทรงตัวหรือแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่คงไม่เคลื่อนไหวอย่างหวือหวา หากไม่มีปัจจัยหรือข่าวอะไรที่รุนแรงมากระทบ เนื่องจากหลังปีใหม่ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว และมองว่าแนวรับของเงินบาทวันนี้อยู่ที่ระดับ 33.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และแนวรับถัดไปที่ 33.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

"การดูแลค่าเงินบาทของแบงก์ชาตินั้น คงจะมีการดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว แต่การที่จะเข้ามาในระดับไหนต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมด้วย ส่วนการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาทในตลาด จากการจับแนวทางการดูแลตลาดของแบงก์ชาติได้นั้น น่าจะทำได้ยากเพราะได้มีการกำหนดให้ผู้ที่จะนำเข้ามาในประเทศเกิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องมีธุรกรรมรองรับ ดังนั้น ตลาดบ้านเราตอนนี้ผู้ที่มีบทบาทหลักก็เป็นผู้ส่งออกอยู่ การขายเงินดอลลาร์ออกก็เป็นผู้ส่งออกเป็นหลัก" นักค้าเงินกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น