xs
xsm
sm
md
lg

อายัดเพนท์เฮ้าส์หรูกลางกรุง สามีดาราสาว “หยาดทิพย์” สอบโยงคดีฟอกเงินเว็บพนัน-Forex3D

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ปปง. อายัดเพนท์เฮ้าส์หรู มูลค่า 245 ล. ของสามีนักแสดงสาวชื่อดัง ตรวจสอบหลังพบเกี่ยวข้องคดีฟอกเงิน พัวพันเว็บพนันบอลออนไลน์และ Forex-3D

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องหนุ่มเศรษฐีเก๊ กับ ดาราสาวแสนสวย เชื่อมโยงเครือข่ายพนันออนไลน์ มีแฟนดารา ห. เข้าไปพัวพันกับเว็บพนันบอล โดยหนึ่งในรายชื่อที่ถูกโยง คือ นางเอกสาวชื่อดัง “หยาดทิพย์ ราชปาล” และสามี “เมฆ-รามา รัศมีรามา”

นอกจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ดำเนินคดี Forex-3D กับ นายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหากับพวกรวม 24 ราย มีการอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง อาทิ เพนท์เฮ้าส์หรู ภายในซอยสุขุมวิท มูลค่า 245 ล้านบาท และอาจเกี่ยวข้องกับการรับโอนทรัพย์สินของ "นายรามา รัศมีรามา หรือ เมฆ” สามีนักแสดงสาว "หยาดทิพย์ ราชปาล" จาก นายอภิรักษ์ เนื่องจาก “หยาดทิพย์” มีความสนิทสนมกับ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ พิงกี้ ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดี โดยเพนท์เฮ้าส์ดังกล่าว เป็นหนึ่งในบัญชีทรัพย์สินที่ดีเอสไอได้ประสานส่งมอบกับสำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการในคดีแพ่งมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม “หยาดทิพย์” ได้ออกมาชี้แจงผ่านบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัว โดยยืนยันว่า สามีไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับคดี FOREX-3D พร้อมทั้งยังระบุว่า คอนโดฯ นั้นซื้อมาอย่างถูกต้อง มีหลักฐานครบถ้วน และซื้อแบบขายฝากผ่านนายหน้ามาก่อนที่ นายอภิรักษ์จะถูกดำเนินคดี

วันนี้ (24 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งมอบบัญชีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจากฐานคดีแชร์ Forex-3D มาให้ทาง ปปง. ดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรายการทรัพย์สินพบว่า เพนท์เฮ้าส์ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิทของ นายรามา รัศมีรามา ทาง ปปง. ได้ดำเนินการยึด อายัดไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างขั้นตอนของศาล โดยเนื้อหารายละเอียดภายในสำนวน ทาง ปปง. ขอละเว้นการเปิดเผย เพราะอาจจะกระทบกับการสืบสวนสอบสวนทางคดีของเจ้าหน้าที่

ด้าน แหล่งข่าวระดับสูงภายในกระทรวงยุติธรรม ว่า เนื่องจากเพนท์เฮ้าส์ดังกล่าวเป็นรายการทรัพย์สินที่มาจากการฟอกเงิน โดยดีเอสไอได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินทุกอย่างจึงพบว่ามีทรัพย์สินนี้อยู่ด้วย ซึ่งหากพูดถึงในกรณีนี้ ดีเอสไอจะมีหน้าที่ดำเนินคดีทางอาญา ขณะที่ ปปง. จะมีหน้าที่ดำเนินคดีทางแพ่งและสามารถพิจารณาในส่วนของการฟอกเงินในทางอาญาเช่นเดียวกัน แต่หน้าที่หลักของ ปปง. คือ พิสูจน์รายการทรัพย์สิน โดยยึดตามหลักในลักษณะว่า รู้หรือควรรู้ว่าเป็นการรับซื้อหรือได้มาโดยสุจริต หรือโดยเจตนาเป็นต้น เพื่อเรียกเจ้าของทรัพย์สินเข้ามาชี้แจงการได้มาของทรัพย์สินนั้นๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น