จ่อเรียก “แทนไท” สอบปากคำ หลังตรวจสอบพบเส้นทางการเงินโยง “กองสลากพลัส”

MGR Online - ดีเอสไอ ออกหมายเรียก “แทนไท” สอบปากคำในฐานะพยาน หลังตรวจสอบพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยง“นอท กองสลากพลัส” ก่อนถูกอายัดทรัพย์

วันนี้ (17 ก.พ.) แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” หลังถูก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้ง 2 ข้อหา ในคดีพิเศษที่ 288/2565 ข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” และคดีพิเศษที่ 6/2566 ข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันและร่วมกันฟอกเงิน” ว่า ได้รับรายงานมาว่าทาง ดีเอสไอ ได้ประสานร่วมกับทางสำนักงาน ปปง. เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับ นายพันธ์ธวัช ทั้งลักษณะการทำธุรกรรมรับเงินและโอนเงิน โดยพบว่าในบรรดาบัญชีธนาคารทั้ง 8 บัญชีต้องสงสัยที่ดีเอสไอได้อายัดไว้นั้น มีบางส่วนได้มีการทำธุรกรรมทางการเงินกับ นายแทนไท ณรงค์กูล จึงได้ออกหมายเรียกให้ นายแทนไท เข้าให้การชี้แจงกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในฐานะพยานในเร็วๆ นี้ เพื่ออธิบายถึงก้อนเงินหลักร้อยล้านบาทที่รับโอนมาจาก นายพันธ์ธวัช

ทาง ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของทั้งคู่ ปรากฏว่า ไม่พบเงินก้อนดังกล่าว (เงินหลักร้อยล้านบาท) ออกจากบัญชีของนายแทนไท แต่กลับพบเงินก้อนดังกล่าวนี้เข้าบัญชีธนาคารของนายพันธ์ธวัช โดยการฝากเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร จากนั้นเงินก้อนนี้ได้ถูกโอนออกไปยังบัญชีธนาคารของนายแทนไท ดีเอสไอจึงเล็งเห็นว่าลักษณะเช่นนี้ เป็นการปิดบังอำพรางแหล่งที่มาของเงินหรือไม่ หรือกล่าวอีกนัย คือ ร่วมกันสร้างเส้นทางการเงิน จึงต้องออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ให้นายแทนไทมาชี้แจง

นอกจากนี้ ทางดีเอสไอยังได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานมาอย่างต่อเนื่อง จนพบว่าทั้งคู่มีการลงทุนทำธุรกิจร่วมกันมานาน โดยหลักฐานที่พบ คือ สัญญาการร่วมทุนจำหน่ายสลากลอตเตอรี่ออนไลน์ เป็นต้น แต่กลับไม่เคยพบเส้นเงินจากนายแทนไทเข้าไปหานายพันธ์ธวัช ซึ่งตนยังได้รับรายงานมาว่าดีเอสไอได้มีการประสานขอเส้นทางการเงินกับทางธนาคาร ซึ่งคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรและหากพยานหลักฐานจากทางธนาคาร ปรากฏว่า มีการโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของนายพันธ์ธวัชไปยังบัญชีนายแทนไท 2 วันล่วงหน้า ก่อนที่นายพันธ์ธวัชจะถูกอายัด ตรงส่วนนี้จะเป็นพยานหลักฐานชัดเจนในการที่ดีเอสไอสามารถดำเนินคดีกับนายแทนไทในข้อหาร่วมกันฟอกเงินได้