“พาณิชย์” ออกประกาศกำหนดราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ โรงงานอาหารสัตว์ต้องซื้อที่กิโลกรัมละ 9.80 บาท หลังขอความร่วมมือก่อนหน้านี้แต่ไม่มีใครยอมทำ มีผลบังคับใช้ 29 ส.ค. หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย พร้อมเข้มเก็บหลักฐานการรับซื้อ เพื่อใช้ขออนุญาตนำเข้าข้าวสาลี
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ครั้งที่ 5/2568 ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม สมาคมการค้าพืชไร่ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศกำหนดราคารับซื้อข้าวโพดความชื้น 14.5% ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 9.80 บาท ที่โรงงานอาหารสัตว์ และความชื้น 30% ที่ กก.ละ 7.05 บาท ณ แหล่งผลิต หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 29 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ได้หารือสมาคมการค้าพืชไร่ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เพื่อดูแลราคาข้าวโพดให้กับเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด โดยกำหนดให้รับซื้อข้าวโพดความชื้น 30% ที่กิโลกรัมละ 7.05 บาท และความชื้นที่่ 14.5 % ที่กิโลกรัมละ 9.80 แต่ไม่ได้รับความร่วมมือรับซื้อตามราคาที่กำหนด เนื่องจากยังมีความเห็นต่างกัน จึงจำเป็นต้องออกประกาศเพื่อบังคับใช้
ทั้งนี้ ยังได้กำหนดให้ผู้รวบรวมและโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ต้องรายงานปริมาณการรับซืัอและเก็บสต๊อก เพื่อนำมากำหนดการขออนุญาตนำเข้า ตามมาตรการ 3 : 1 คือ การซื้อข้าวโพด 3 ส่วน ต่อการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน หากรับซื้อในราคาที่ต่ำกว่าประกาศ ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 29 ภายใต้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ฐานจงใจทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคา มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ในช่วงที่ผ่านมาผลผลิตข้าวโพดออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 2 แสนตัน แต่เกษตรกรไม่สามารถขายได้ตามราคาที่กำหนด เพราะโรงงานผลิตอาหารสัตว์ไม่รับซื้อตามที่ขอความร่วมมือ โดยเชื่อว่าหลังจากมีการออกประกาศ จะทำให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ตามราคาที่กำหนด โดยผลผลิตข้าวโพดจะเริ่มออกมากในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. และจะค่อยๆ ลดลงในเดือน ม.ค.-ก.พ.”
สำหรับผลผลิตข้าวโพดปี 2568/68 คาดว่าจะมีปริมาณ 4.7 ล้านตัน ความต้องการใช้อยู่ที่ 9.2 ล้านตัน ทำให้ต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ ปีละประมาณ 4.5 ล้านตัน โดยนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา ประมาณ 1.6 ล้านตัน แต่ปีนี้คาดว่าการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านจะลดลงไปครึ่งหนึ่ง จากมาตรการลดฝุ่น PM 2.5 ที่จะรับซื้อผลผลิตที่ไม่มีการเผาไร่ และจากมาตรการปิดด่านจากข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา