xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะ” นำทีมประชุมไทย-จีน ดัน "ไฮสปีด" เฟส 2 ถึงหนองคาย เริ่มสร้างปี 68 พร้อมเร่งออกแบบสะพานใหม่เชื่อมเวียงจันทน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุริยะ” นำทีมคมนาคมประชุม คกก.ร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 31 ที่กรุงปักกิ่ง เห็นชอบ 5 ประเด็นเร่งก่อสร้าง เฟส 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา เปิดบริการปี 71 เตรียมชง ครม.เคาะเฟส 2 ถึงหนองคาย เริ่มสร้างในปี 68 เปิดปี 73 ส่วนสะพานข้ามโขงแห่งใหม่เชื่อมเวียงจันทน์ รฟท.เทงบ 125 ล้านเร่งออกแบบ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานร่วมกับนายอู่ ฮ่าว เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ในการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 31 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อติดตามความก้าวหน้าและผลักดันความร่วมมือโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตร และเห็นชอบร่วมกันในประเด็นสำคัญ 5 ข้อ ดังนี้

1. ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานก่อสร้างโครงการช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา (ระยะที่ 1) ระยะทาง 253 กิโลเมตร ซึ่งโดยรวมมีความก้าวหน้าอย่างมากโดยเฉพาะในด้านการรื้อย้ายและเวนคืนที่ดิน ได้รับการผลักดันภายหลังการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืน ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแนวทางและมาตรการร่วมกันในการเร่งรัดให้การดำเนินงานก่อสร้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ฝ่ายไทยแจ้งความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา โดยปัจจุบันก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ 2 สัญญาจากทั้งหมด 14 สัญญา อีก 10 สัญญาอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และรอการลงนามจำนวน 2 สัญญา และฝ่ายไทยจะใช้ความพยายามอย่างสูงสุดเพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามแผนงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2571


2. ฝ่ายไทยแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการของโครงการระยะที่ 2 (ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย) ระยะทาง 357.12 กิโลเมตร ที่ฝ่ายไทยได้ออกแบบรายละเอียดงานโยธาแล้วเสร็จ ซึ่งปัจจุบัน รายงาน EIA ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการแล้ว และเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ คู่ขนานไปพร้อมกับการขออนุมัติโครงการ

ในคราวการประชุมโดยคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้มีมติในคราวการประชุมครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 เห็นชอบอนุมัติการ ดำเนินโครงการก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2568 และจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2573 ต่อไป โดยที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าและแผนงานของโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงนครราชสีมา-หนองคาย (ระยะที่ 2)


3. ที่ประชุมได้หารือถึงโครงการรถไฟเชื่อมต่อจากจังหวัดหนองคายไปยังเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ฝ่ายไทยแจ้งความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ใกล้กับสะพานเดิมที่มีอยู่ห่างประมาณ 30 เมตร มีทั้งทางรถไฟขนาดมาตรฐาน และทางขนาด 1 เมตร ปัจจุบันกรมทางหลวง (ทล.) ได้ศึกษาความเหมาะสมแล้วเสร็จ และ รฟท.ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณในปี 2567 สำหรับการออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงาน EIA จำนวน 125 ล้านบาท ปัจจุบัน รฟท.อยู่ระหว่างการจัดทำร่างขอบเขตของงาน และราคากลาง เพื่อจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดต่อไป

นอกจากนี้ ได้มีการพัฒนาพื้นที่นาทาเพื่อเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าและย่านกองเก็บตู้สินค้า โดย รฟท.ได้ดำเนินการศึกษาในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ เพื่อเป็นสถานีขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ที่รับรองการเปลี่ยนถ่ายสินค้าทางรถไฟระหว่างทางรถไฟขนาด 1 เมตร และขนาดทางมาตรฐาน รวมถึงเป็นพื้นที่การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบระหว่างทางถนนกับทางราง และพื้นที่สำหรับรวบรวมและกระจายสินค้า โดยจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น อาคาร คลังสินค้า การให้บริการคลังสินค้า รวมทั้งการให้บริการพิธีการทางศุลกากรเพื่อตรวจปล่อยสินค้า X-ray ตู้สินค้า การตรวจรังสี เป็นต้น โดยกำหนดให้นาทาเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่าง 3 ประเทศ ไทย ลาว และจีน

การประชุมบอร์ด รฟท.ครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 เห็นชอบให้เสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาเสนอต่อสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2571 โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการปรับปรุงและดำเนินความร่วมมือ และประสานงานอย่างใกล้ชิดในการประชุมไตรภาคีระหว่างไทย สปป.ลาว และจีน เพื่อผลักดันให้โครงการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟดังกล่าวก้าวหน้าต่อไป


4. ฝ่ายไทยยังได้แจ้งให้ทราบถึงการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (สทร.) ซึ่งเป็นองค์การมหาชนภายใต้กระทรวงคมนาคม โดย สทร.จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานงานหลักในการอำนวยความสะดวกและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านระบบรางจากต่างประเทศ


5. ที่ประชุมได้ให้การรับรองและเห็นชอบในหลักการให้มีการจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 32 ขึ้นในประเทศไทยต่อไป

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ให้การรับรองต่อที่ประชุมว่าจะร่วมกันขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ให้คืบหน้าตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยความร่วมมือและสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน เพื่อให้บรรลุประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งรถไฟของทั้งสองประเทศ


รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ล่าสุด ครั้งที่ 30 มีขึ้นเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2565 สมัยรัฐบาลที่แล้ว ใช้เวลากว่า 1 ปีจึงมีการประชุมครั้งที่ 31 และถือเป็นการประชุมแรกอย่างเป็นทางการร่วมสองฝ่ายภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งคาดว่านอกจากจะเร่งรัดการก่อสร้างในเฟส 1 ให้เสร็จตามแผนแล้ว จะมีการผลักดัน โครงการเฟส 2 ให้เริ่มต้นโดยเร็วอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น