ยังไม่สรุป! สอบข้อเท็จจริงส่วยสติกเกอร์-คมนาคมเร่งจัดหากล้องติดตัว จนท.ในปีนี้

"คมนาคม" ยังสอบข้อเท็จจริงไม่จบ "ส่วยสติกเกอร์" เก็บข้อมูลเจ้าหน้าที่รับสินบน พิจารณารอบหน้า ทล.-ทช.วางสเปกเร่งจัดหากล้องติดตัวจนท. 40-50 ตัวในปีนี้

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการติดสินบนเจ้าหน้าที่โดยการติดสติกเกอร์บนรถบรรทุก ครั้งที่ 3/2566 ที่ประชุมฯ ได้ติดตามการดำเนินการต่างๆ โดยคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการติดสินบนเจ้าหน้าที่โดยการติดสติกเกอร์บนรถบรรทุก โดยมี นายมนตรี เดชาสกุลสม ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจสถานีตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุก จำนวน 28 แห่ง ซึ่งมีข้อเสนอแนะให้เร่งติดตั้งระบบตรวจสอบน้ำหนักยานพาหนะเคลื่อนที่ (WIM) ที่สถานีฯ ให้ครบทุกแห่ง ให้ปรับปรุงข้อความบนป้ายก่อนเข้าสถานีฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมกำหนดมาตรการสุ่มตรวจรถที่ไม่เข้าชั่งน้ำหนักที่สถานีฯ ให้ชัดเจน มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น และให้พิจารณาแก้ไขกฎหมาย โดยเพิ่มโทษรถที่ไม่เข้าชั่งน้ำหนักที่สถานีฯ และไม่ผ่านการตรวจสอบน้ำหนัก

พร้อมทั้งให้มีการปรับปรุงสื่อประชาสัมพันธ์ (VDO Clip) เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบถึงระบบการทำงานของสถานีตรวจสอบน้ำหนักฯ ของ ทล. ซึ่งนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจสอบ และจะพิจารณานำมาใช้ให้ครบทุกสถานีฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน


ส่วนประเด็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ทล.นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ล่าสุดได้รับข้อมูลจากสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยแล้ว โดยจะนำมาประกอบการพิจารณา และในการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งต่อไปจะเชิญคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ทล.มาให้ข้อมูลด้วย ซึ่งจะดำเนินการทุกขั้นตอนและตรวจสอบทุกประเด็นด้วยความโปร่งใส ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากพบว่าหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการทุจริต กระทรวงฯ จะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น


ด้านนายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ความคืบหน้าการนำระบบกล้องติดตัวเจ้าหน้าที่ (Body Camera) เพื่อบันทึกความเคลื่อนไหวระหว่างการปฏิบัติงานในการตรวจสอบน้ำหนักเคลื่อนที่ (Spot Check) นั้น เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถจัดหา Body Camera ได้จำนวน 40-50 ตัว โดยใช้งบประมาณจากเงินรางวัลจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินในปีงบประมาณ 2566 ที่มีประมาณ 5 แสนบาท (เดือน ต.ค. 2565-ปัจจุบัน) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดคุณสมบัติของ Body Camera ที่มีประสิทธิภาพการทำงาน และขีดความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลได้ระดับใด

คาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปีนี้ และนำไปใช้ในเส้นทางสายหลักที่มีสถิติการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินจำนวนมาก ร่วมกับการใช้ในส่วนกลาง

ด้านกรมทางหลวงชนบท (ทช.) รายงานว่า อยู่ระหว่างดำเนินการเบื้องต้นจัดหากล้องประมาณ 5-10 ตัว โดยใช้งบประมาณเหลือจ่ายปี 2566 ดำเนินการจัดหา