กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยผลสำรวจร้านสะดวกซื้อในเมืองปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว พบสินค้า “เนื้ออกไก่แปรรูป” มีวางขายหลากชนิด หลากแบรนด์ หลังชาวจีนนิยมบริโภคทดแทนอาหารมื้อหลักและบริโภคเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ แนะเป็นโอกาสในการขยายการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ของไทย แต่ต้องเน้นการแปรรูป มีประโยชน์ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และรักสุขภาพ
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับข้อมูลจาก น.ส.นันท์นภัส งามแม้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ถึงผลการสำรวจตลาดเนื้ออกไก่แปรรูปพร้อมรับประทานในตลาดจีน และโอกาสการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทย
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานสถานการณ์สินค้าตลาดเนื้อไก่ในจีนว่า เมื่อเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อในเมืองปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว พบว่าบนชั้นวางสินค้าอาหารแช่เย็นมักจะพบสินค้าที่มีส่วนผสมของเนื้ออกไก่หลากหลายชนิดและหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบชิ้นเนื้ออกไก่ ไส้กรอก และลูกชิ้น เป็นต้น ที่นำมาวางให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้ออย่างหลากหลาย และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเนื้ออกไก่กลายเป็นทางเลือกในการทดแทนอาหารมื้อหลัก หรืออาหารสุขภาพลดความหิว
สำหรับการแข่งขันในตลาดเนื้ออกไก่แปรรูปแบบพร้อมรับประทาน มีประเภทและรูปแบบย่อยที่หลากหลาย แต่ปัจจุบันการแข่งขันเนื้ออกไก่แปรรูปแบบพร้อมรับประทานในตลาดจีนมี 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 1. แบรนด์ Skark Fit (www.sharkfit.net) เป็นแบรนด์ต้นแบบด้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ครองส่วนแบ่งในตลาดออนไลน์สูง 2. แบรนด์ผู้ผลิตเนื้อไก่ชั้นนำดั้งเดิม อย่างแบรนด์ Fovo Foods (www.fengxiang.com), Sunner (www.sunnersp.com), และ Spring snow (www.springsnowfood.com) เป็นต้น และแบรนด์ดังด้านอาหาร เช่น KFC, Mcdonald’s รวมไปถึงแบรนด์ KEEP, Lefit, Be & Cheery เป็นต้น ต่างก็ผันตัวเข้ามาในตลาดเนื้ออกไก่แปรรูปแบบพร้อมรับประทานมากขึ้น
นายภูสิตกล่าวว่า อุตสาหกรรมการแปรรูปเนื้อไก่พร้อมรับประทานแบบเชิงลึกในจีนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จึงยังมีช่องว่างและโอกาสในการพัฒนาสินค้าในอุตสาหกรรม ซึ่งประเทศไทยส่งออกเนื้อไก่ไทยไปยังตลาดจีนยังคงมีทิศทางในเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันศุลกากรแห่งชาติจีนได้ประกาศรับรองการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตและแปรรูปสัตว์ปีกไทยแล้วจำนวน 23 ราย เนื้อสัตว์ที่จีนอนุญาตให้นำเข้าจากประเทศไทยมีเนื้อไก่แช่แข็ง และเนื้อเป็ดแช่แข็ง ซึ่งไม่สามารถยื่นขึ้นทะเบียนโดยตรงต่อศุลกากรจีนแต่ให้ยื่นผ่านหน่วยงานกรมปศุสัตว์ของประเทศไทย
“การเข้าสู่ตลาดเนื้ออกไก่แปรรูปพร้อมรับประทาน ผู้ประกอบการไทยต้องเพิ่มการวิจัยพัฒนาการแปรรูปสินค้าเนื้อไก่ในรูปแบบเดิม ให้เป็นสินค้าแปรรูปเชิงลึกแบบใหม่ที่มีความหลากหลาย มีประโยชน์ และสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านต่างๆ ให้แก่ผลิตภัณฑ์ จะเป็นการขยายช่องทางตลาด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ ประกอบกับเทรนด์การรักสุขภาพ บริโภคของดีมีประโยชน์ และเทรนด์การออกกำลังกาย สร้างกล้ามเนื้อ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนโอกาสการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ของไทยเพื่อเจาะเข้ากลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ได้มากยิ่งขึ้น” นายภูสิตกล่าว