กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ดึงดูดชาวฮ่องกงเข้ามาเลือกซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 และใช้เพื่อการพักผ่อนระยะยาว หลังรัฐบาลไฟเขียวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ “ทูตพาณิชย์ฮ่องกง” เผยได้รับความสนใจจากชาวฮ่องกงเป็นอย่างมาก หลังต้องการย้ายถิ่นฐาน พร้อมชื่นชมไทยในฐานะประเทศปลายทางยอดนิยม
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ ที่ประจำการอยู่ในประเทศที่เป็นเป้าหมายในการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีความมั่งคั่งให้เข้ามาพักอาศัยระยะยาวในเมืองไทย ตามนโยบายที่ได้รับจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2564 ที่ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในไทย
นางชณันภัสร์ พิศาลอภิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง กล่าวว่า สำนักงานฯ ได้รับนโยบายจากกรมฯ และได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยในตลาดฮ่องกง ในหัวข้อ Property Investment in Thailand ณ ตึก California Tower ย่าน Lan Kwai Fong โดยจัดขึ้นภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 และมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งสำนักงานฯ ได้ใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวฮ่องกงซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยเพื่อใช้เป็นบ้านหลังที่ 2 และใช้เพื่อการพักผ่อนระยะยาว เพราะปัจจุบันอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงมีราคาสูงมาก ยากต่อการเป็นเจ้าของ ประกอบกับชาวฮ่องกงมีความต้องการที่จะย้ายถิ่นฐานออกไปต่างประเทศ และมีความชื่นชมและมองไทยเป็นประเทศปลายทางยอดนิยม ยิ่งนโยบายรัฐบาลเอื้อต่อการเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะจับตลาดลูกค้าชาวฮ่องกงได้เพิ่มขึ้น
ในการจัดงานครั้งนี้ได้มีการนำเสนอธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยมีการจัดคูหาประชาสัมพันธ์ และการนำเสนอในรูปแบบ Virtual Showcase ผ่านระบบเครือข่ายดิจิทัลผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระหว่างไทยกับฮ่องกง โดยมีผู้เข้าร่วม เช่น MQDC แมคโนเลีย กรุ๊ป, The Strand, พฤกษา, แสนสิริ, Fraser, Richy, Elite Thai Visa Program, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, โรงเรียนนานาชาติ Harrow และ Shrewbury รวมถึงบริษัท HPA และรีสอร์ต Aqualla จังหวัดพังงา และ Andara จังหวัดภูเก็ต ซึ่ง Virtual Showcase นี้เข้าถึงผู้ชมทันทีถึงกว่า 600 ราย ซึ่งสำนักงานฯ ได้ลงคลิปของการจัดงานดังกล่าวในเฟซบุ๊ก Thai Trade Centre Hong Kong เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถดูย้อนหลังได้ และเข้าถึงผู้ประกอบการไทย และชาวฮ่องกงได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ทั้งนี้ ช่วงการเปิดงานได้รับเกียรติจากแขกกิตติมศักดิ์ Dr. Allan Zeman ผู้เป็นตำนานการบุกเบิกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ย่านลานไคฟงในฮ่องกง และประธานกลุ่มบริษัท Lan Kwai Fong Holdings Ltd. รวมทั้ง Mr. Nicholas Ho ประธานบริษัท Ho & Partners Architects Engineers & Development Consultants Limited (HPA) นักลงทุนในโครงการ Smart City ในจังหวัดชลบุรี และยังได้รับเกียรติจาก นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย ที่ได้เข้าร่วมงาน Online เพื่อให้ข้อมูลภาพรวมตลอดจนอนาคตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย
ขณะเดียวกัน ธนาคารกรุงเทพ สาขาฮ่องกง, LKF Group, ArCarl Limited, โรงเรียนนานาชาติ Harrow และโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ที่เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ว่าไทยมีจุดได้เปรียบในด้านค่าครองชีพที่ไม่สูง มีห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงพยาบาล สถานศึกษา และสิ่งอำนวยความสะดวกตอบโจทย์การใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าศักยภาพที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเมื่อมีมาตรการรัฐเป็นตัวช่วยยิ่งทำให้อสังหาริมทรัพย์ไทยมีจุดขายเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่มีศักยภาพ มีความพร้อมรองรับการลงทุนจากต่างชาติ อาทิ โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประกอบกับสถานการณ์การเมืองในฮ่องกง ทำให้ชาวฮ่องกงมีความต้องการอพยพย้ายออกจากฮ่องกง โดยไทยเป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ของชาวฮ่องกง เนื่องจากไทยมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่คล้ายคลึงกัน และราคาที่พักอาศัยของไทยที่มีราคาถูกกว่ามาก ซึ่งเหมาะสมสำหรับชาวฮ่องกงในการพิจารณาซื้อเพื่อประกอบธุรกิจหรือใช้เป็นบ้านหลังที่ 2 รวมทั้งเพื่อใช้สำหรับการพักผ่อนระยะยาว