xs
xsm
sm
md
lg

อาร์ทีบีปรับตัวสู้โควิด-19 รุกสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์-การตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น คาดดันรายได้ปี 2564 ทะลุ 800 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อาร์ทีบี โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้กว่า 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% สวนกระแสเศรษฐกิจ ด้วยการมีสินค้าที่ครอบคลุมความต้องการแห่งอนาคต และกระแสการทำงานและการเรียนหนังสือจากที่บ้าน ดันความต้องการสินค้าในกลุ่มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ และกลุ่มอุปกรณ์สื่อสารระบบดิจิทัลสำหรับองค์กรสมัยใหม่เพิ่มขึ้น พร้อมรุกหนักช่องทางออนไลน์ครอบคลุมทุกช่องทาง โดยส่งนวัตกรรมหูฟัง True Wireless ภายใต้แบรนด์ “Jabra” 2 รุ่นใหม่ “Jabra Elite 7 Pro” และ “Jabra Elite 7 Active” ลุยตลาดไตรมาส 4 ที่โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวน พร้อมการออกแบบใหม่ในขนาดกะทัดรัดเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานยิ่งขึ้น เชื่อดันรายได้ปี 2564 ทะลุ 800 ล้านบาท

นายบรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับการดำเนินธุรกิจอย่างมาก เพราะต้องเผชิญกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ส่งผลต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค เนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่ 70-80% มาจากการขายหน้าร้าน นอกจากนี้ ยังประสบปัญหาซัปพลายไม่สามารถผลิตได้ การขนส่งทางเครื่องบินระหว่างประเทศไม่สามารถขนส่งได้จึงต้องขนส่งทางอื่นทำให้มีต้นทุนเพิ่ม ตลอดจนยอดขายอุปกรณ์เกี่ยวกับการออกกำลังกายได้รับผลกระทบยอดขายลดลงด้วย

ดังนั้น ในปี 2564 อาร์ทีบีได้ปรับตัวและมุ่งการทำการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้การเติบโตเป็นไปอย่างน่าพอใจ โดยผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีรายได้รวม 600 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ซึ่งเป็นผลมาจากการมีพอร์ตโฟลิโอของประเภทสินค้าและแบรนด์ที่เป็นสินค้าแห่งอนาคต ซึ่งในแต่ละประเภทสินค้าที่บริษัทถืออยู่ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงที่กำลังเติบโตทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นหูฟังทรูไวร์เลส ลำโพงไร้สาย อุปกรณ์เกมมิ่ง หรืออุปกรณ์ดิจิทัลสำหรับสำนักงาน และสินค้าประเภท Work From Home นอกจากนี้ ยังมีการปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ประกอบกับการเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งได้มีการเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ๆ ที่มีคุณภาพและทันสมัยหลากหลายแบรนด์ รวมทั้งยังได้เป็นตัวแทนจำหน่าย Accessories ของ Apple อีกด้วย

แม้ว่าในปี 2563 กลุ่มหูฟังที่เป็นทรูไวร์เลสมีการชะลอตัวในช่วงแรกของการปิดประเทศ เนื่องจากผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องใช้หูฟังเมื่ออยู่บ้าน แต่ในปี 2564 นี้ ผู้บริโภคเริ่มกลับมาซื้อหูฟังประเภทนี้มากขึ้น เพื่อใช้ทั้งความบันเทิงและการ Work From Home เพราะหูฟังทรูไวร์เลสมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับกระแสโลกที่ปีนี้หูฟังทรูไวร์เลสมีการเติบโตอยู่ที่ 33% ล่าสุด อาร์ทีบีจึงมีแผนรุกตลาดหูฟัง True Wireless ด้วยการส่งสุดยอดนวัตกรรมหูฟัง True Wireless จากแบรนด์ “Jabra” (จาบร้า) ลุยตลาดพร้อมกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ Jabra Elite7 Pro และ Jabra Elite7 Active

“มั่นใจว่าจากการปรับตัวเองอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการส่งนวัตกรรมใหม่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไม่หยุดนิ่ง จะทำให้สิ้นปีนี้ยอดขายของอาร์ทีบีจะเติบโตเกิน 60% โดยยอดขายสิ้นปีคาดว่าจะอยู่ที่ 800 ล้านบาท”


ด้าน น.ส.วิมลมาลย์ วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด อาร์ทีบี กล่าวว่า เราเป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับหูฟังบลูทูธมาอย่างยาวนาน และไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดค้นและพัฒนาเพื่อให้ได้หูฟังที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ความต้องการ ทำให้ “Jabra” มี Brand Awareness ที่มีความแข็งแกร่งและเป็นที่ชื่นชอบของคนรักหูฟังในประเทศไทย โดยหูฟัง True Wireless ทั้ง 2 รุ่นได้รับการออกแบบขึ้นใหม่เพื่อให้คอเพลงที่ต้องการหูฟังคุณภาพสูงและมีความสะดวกคล่องตัวในการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม


สำหรับ Jabra Elite7 Pro เป็นหูฟัง True Wireless ชูนวัตกรรม Jabra MultiSensor Voice™ ที่ทำงานร่วมกันระหว่าง Bone Conduction Technology ซึ่งจับการสั่นสะเทือนของกราม ผสานกับไมโครโฟนรับเสียง 4 ตัว และตัวอัลกอริทึมอัจฉริยะของ “Jabra” ทำให้ประสิทธิภาพการคุยชัดเจนเหนือชั้นมากที่สุด โดยระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวของกรามที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ด้วย Bone Conduction จะช่วยให้เสียงระหว่างสนทนาชัดเจนที่สุด เมื่อเผชิญกับเสียงลม ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ของหูฟังขนาดเล็ก

นอกจากนั้น Jabra Elite 7 Pro ยังออกแบบอย่างพิถีพิถันทั้งรูปทรงและฟังก์ชันการใช้งาน โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวน ANC แบบ Feedforward เพื่อเพิ่มสุนทรียภาพในการฟังเพลงและประสิทธิภาพในการคุยโทรศัพท์ รวมถึงมาพร้อมเสียงที่ทรงพลังด้วยลำโพงขนาด 6 มม. ที่มีฟังก์ชัน HearThrough ที่ทำให้ได้ยินเสียงจากภายนอกโดยไม่ต้องถอดหูฟัง ช่วยให้ไม่พลาดทุกการติดต่อและปลอดภัยเมื่ออยู่บนท้องถนน ขณะเดียวกัน ตัวหูฟังยังออกแบบเอียร์บัดใหม่ให้มีขนาดกะทัดรัดกว่ารุ่น Elite 75t ถึง 16% โดยใช้ข้อมูลจากการสแกนใบหูถึง 62,000 ใบหู

อีกทั้งยังมีความทนต่อละอองน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP57 ในขณะที่ยังรองรับการทำงานร่วมกับแอป Jabra Sound+ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเสียงต่างๆ ให้เหมาะกับหูของแต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น (My Sound+My Fit) ผ่านมือถือได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย แบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC และอยู่ได้นาน 30 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ พร้อมรองรับการชาร์จเร็วด้วย USB-C โดยชาร์จแค่ 15 นาที สามารถฟังเพลงได้นานอีก 60 นาที มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Titanium / Gold Beige / Black ราคา 7,790 บาท

ขณะที่ Jabra Elite7 Active เป็นหูฟัง True Wireless มาพร้อมเทคโนโลยี Jabra ShakeGrip ในการผลิตตัวหูฟังที่ไร้รอยต่อ โดยยางซิลิโคนเหลว (Liquid Silicon) จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะให้หูฟังไม่หลุดง่ายแม้ในขณะเคลื่อนไหวและยังให้ความทนทาน กันน้ำ กันเหงื่อ เหมาะสำหรับคนรักเสียงเพลงที่ชื่นชอบการออกกำลังกายในดีไซน์ที่กะทัดรัด นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเสียงที่ทรงพลังด้วยลำโพงขนาด 6 มม. ผสานเทคโนโลยีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ANC แบบ Feedforward จึงทำให้เสียงมีความคมชัดทุกสถานการณ์

ขณะเดียวกัน ยังมาพร้อมไมโครโฟน 4 ตัวและรองรับการเชื่อม Bluetooth 5.2 รวมถึงมีฟังก์ชัน HearThrough ที่ทำให้ได้ยินเสียงจากภายนอกโดยไม่ต้องถอดหูฟัง ช่วยให้ไม่พลาดการติดต่อ และปลอดภัยเมื่ออยู่บนท้องถนน ยิ่งไปกว่านั้น ตัวหูฟังยังออกแบบให้ทนต่อละอองน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP57 พร้อมรองรับการทำงานร่วมกับแอป Jabra Sound+ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเสียงต่างๆ ผ่านมือถือได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย แบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC และอยู่ได้นาน 30 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ และยังรองรับการชาร์จเร็วด้วย USB-C โดยชาร์จแค่ 10 นาที สามารถฟังเพลงได้นานอีก 90 นาที มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black / Navy และ Mint ราคา 6,790 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น