ผู้จัดการรายวัน 360 - MUJI ยกไทยตลาดสำคัญ เร่งเครื่องขยายตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เผยปีนี้เล็งผุดใหม่ 4 แห่งนำร่องที่ไอคอนสยาม จัดเต็มทุกบริการพิเศษ และรีโนเวตใหม่ที่แฟชั่นไอส์แลนด์เรียบร้อยแล้ว พร้อมเดินหน้าปรับราคาต่อเนื่อง หวังเข้าถึงคนไทยมากขึ้น
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังเป็นตลาดที่ MUJI ให้ความสำคัญและมองเห็นศักยภาพ เนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยมั่นใจต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่น ประกอบกับประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาท่องเที่ยวและชอปปิ้ง จึงเป็นช่องทางสำคัญในการนำผลิตภัณฑ์ของ MUJI ไปสู่ผู้บริโภค
โดยในปี 2564 นี้ MUJI มีแผนขยายสาขาใหม่จำนวน 4 สาขา ล่าสุดคือ การเปิดสาขาไอคอนสยาม ที่เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป รวมทั้งมีการรีโนเวตครั้งใหญ่ของสาขาเดิมอีก 1 สาขา ซึ่งล่าสุดคือ การปรับปรุงร้านมูจิสาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ ที่เพิ่งดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยขยายเนื้อที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า จากเดิม 359 ตร.ม. เป็น 1,400 ตร.ม. มีสินค้าให้เลือกกว่า 3,000 รายการ
นอกจากนั้น มูจิยังมีแผนนำผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยได้มากขึ้น ผ่านกลยุทธ์การปรับราคาสินค้าให้มีความเหมาะสม ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การขยายช่องทางการขายเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นด้วย ทั้งในช่องทางออนไลน์และช่องทางออฟไลน์ หรือการขยายสาขาไปในทำเลศักยภาพทั่วประเทศต่อเนื่อง
นายอกิฮิโร่กล่าวว่า สำหรับสาขาใหม่ในศูนย์การค้าไอคอนสยาม (ICONSIAM) ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอีกทำเลศักยภาพด้านความสวยงาม ดึงดูดนักชอปปิ้งทั้งประเทศ จึงถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ดีในการขยายสาขา ซึ่งมูจิยังไม่มีสาขาในย่านนั้น เราจึงอยากขยายสาขาใหม่เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าออกไปในย่านนั้น โดยหวังว่าลูกค้าจะเข้าถึงและมีความเข้าใจในแบรนด์มูจิมากขึ้น หลังจากปีที่แล้ว 2563 เปิดสาขาในเดอะมอลล์งามวงศ์วานเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สาขาใหม่ไอคอนสยามมีพื้นที่ให้บริการขนาดใหญ่ถึง 1,300 ตร.ม. ตั้งอยู่ชั้น 3 โดยโครงการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์สะท้อนวิถีชีวิตอันเรียบง่ายและใกล้ชิดกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองด้วยสไตล์ “มินิมัลลิสต์” จัดสรรพื้นที่เป็นสัดเป็นส่วนพร้อมบริการของมูจิได้ง่ายขึ้น จัดหนักครบทุกกรุ๊ปไอเท็มสินค้ากว่า 6,193 รายการ อีกทั้งยังเป็นสาขาที่มีบริการพิเศษของมูจิเต็มรูปแบบด้วย เช่น
MUJI Labo (มูจิ เลโบ) เป็นสาขาที่ 3 ที่มีบริการนี้ เป็นสินค้าที่ผลิตออกมาเพื่อทดลองตลาดว่าเสื้อผ้ารูปแบบไหนลูกค้าชอบหรือไม่ชอบ หากแบบไหนได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าก็จะถูกนำมาผลิตให้เป็นสินค้าพื้นฐาน วางขายที่สาขานี้จำนวน 20 รายการ ทั้งนี้ MUJI Labo 3 อันดับขายดี คือ 1. กางเกงขายาว STRETCH CHINO WIDE CROP PANTS UNISEX 2. เสื้อยืด EXTRA LONG CT JERSEY CREW TEE UNISEX และ 3. เสื้อเชิ้ต POPLIN REVERSIBLE S S SHIRT UNISEX
โซนผลิตภัณฑ์อาหารท้องถิ่น (Local Food) มีเชลฟ์สำหรับวางสินค้า 12 เชลฟ์ทั้งหมด 154 รายการ ด้วยแนวคิดส่งเสริมผู้ประกอบการท้องถิ่นที่เป็นของหายากและเต็มไปด้วยคุณค่าที่ส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าออร์แกนิก สินค้าที่สนับสนุนชุมชนในพื้นที่ หรือสินค้าที่มีกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้ามาจับจ่ายซื้ออาหารท้องถิ่นได้ง่ายขึ้นสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่สามารถเดินทางข้ามจังหวัดหรือพื้นที่ได้ในยุคไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันโซน Local Food มีเปิดให้บริการแล้ว 6 สาขา รวมสาขาใหม่ไอคอนสยาม และยังมีแผนเพิ่มโซนดังกล่าวในสาขาที่เปิดให้บริการอยู่ปัจจุบันจนครบ 20 สาขา รวมทั้งสาขาใหม่
โซน MUJI Coffee Corner ซึ่งเป็นร้านกาแฟ สาขาที่ 4 ในไทย ยังมีบริการ MUJI Interior Consultation Service ซึ่งเป็นบริการที่ปรึกษาด้านออกแบบภายใน และโซนบริการตัดขากางเกงฟรี
ส่วนนโยบายการปรับราคาสินค้านั้น ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 มูจิปรับราคาสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าจำนวน 38 รายการ และสินค้ากลุ่มของเครื่องใช้ในบ้านจำนวน 179 รายการ รวมทั้งสิ้นกว่า 217 รายการ
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมามูจิได้ปรับราคาขายปลีกสินค้าลงต่อเนื่อง โดยปี 2562 ได้ปรับลงราคาสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า และสินค้ากลุ่มของเครื่องใช้ในบ้านรวม 264 รายการ และในปี 2563 ปรับราคาสินค้าในประเทศไทยรวม 769 รายการ โดยแบ่งเป็นสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า จำนวน 127 รายการ และสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ในบ้าน 642 รายการ
