ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฟังจากปากเจ้าของ “สวนเสือศรีราชา” ยังไงก็ไม่เลิกกิจการสวนกระแสข่าวในโลกออนไลน์แค่บอกไม่ละเอียด ปิดแค่ 14 วันตามนโยบาย จ.ชลบุรี หลังถูกยกระดับเป็นพื้นที่สีแดงเข้มจากพิษโควิด-19
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความในโลกออนไลน์ว่า สวนเสือศรีราชา จ.ชลบุรี แลนด์มาร์กทางการท่องเที่ยวในพื้นที่มานานกว่า 30 ปี ยอมพ่ายต่อพิษเศรษฐกิจจากวิฤตโควิด-19 และได้ประกาศปิดบริการตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.เป็นต้นมา
รวมทั้งยังมีการเผยแพร่ข้อความประกาศเลิกกิจการ พร้อมนัดประชุมพนักงานทั้งหมดในเวลา 14.00 น.วันที่ 3 พ.ค.ที่จะถึงนี้ บริเวณลานโชว์ช้างภายในสวนเสือศรีราชานั้น
วันนี้ (1 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสุเมธ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ผู้จำหน่ายและส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากจระเข้ รวมทั้งยังเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ขนาดใหญ่ของ จ.ชลบุรี และเจ้าของที่ตั้งสวนเสือศรีราชา ถึงกระแสข่าวการเลิกกิจการว่าไม่เป็นความจริง
พร้อมยืนยันว่า การปิดบริการของ “สวนเสือศรีราชา” เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แค่ 14 วันตามนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้นของคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อ จ.ชลบุรี หลังถูกยกระดับพื้นที่ให้เป็นสีแดงเข้ม
“บริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ได้เทกโอเวอร์ธุรกิจสวนเสือศรีราชาจากผู้บริหารเดิมมานานถึง 10 ปีแล้ว และในทุกวันนี้ผู้บริหารเดิมได้เช่าพื้นที่ดำเนินการแบบปีต่อปี ซึ่งเรายืนยันว่าจะไม่มีการปิดกิจการแน่นอน เพราะสวนเสือศรีราชา เป็นที่รู้จักมานานกว่า 30 ปี ซึ่งเมื่อมีกระแสข่าวเกิดขึ้นเราได้แจ้งไปยังผู้บริหารเดิมแล้วว่าให้ยกข้อความออกเพราะอย่างไรเราจะทำต่อ”
พร้อมยังบอกอีกว่า หลังเกิดวิกฤตโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรกที่ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวหลักซึ่งเป็นชาวจีนกลายเป็นศูนย์ แต่สัตว์ทุกชนิดที่อยู่ภายในสวนเสือศรีราชา ยังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยมีทั้งผู้เลี้ยงและอาหารให้กินทุกมื้อ
ไม่ว่าจะเป็นเสือที่มีอยู่กว่า 400 ตัว ช้างอีกกว่า 300 ตัว จระเข้ที่อยู่ในฟาร์มนับแสนตัว รวมทั้งพนักงานทั้งหมดยังคงได้รับการดูแลเพื่อรอโอกาสที่จะได้กลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
“วิกฤตโควิด-19 ทำให้สวนเสือศรีราชาแทบจะเปิดบริการไม่ได้อยู่แล้วเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว แต่เราไม่เคยมีแนวคิดที่จะปิดซึ่งหากหมดสัญญาเช่าพื้นที่แล้วเจ้าของเดิมไม่ทำต่อ เราจะรับดูแลทั้งหมดและยังมีแนวคิดที่จะรีโนเวตสวนเสือศรีราชาให้เป็นศูนย์รวมทางการท่องเที่ยวแบบครบวงจรที่จะมีทั้งคอมมูนิตีมอลล์ ศูนย์รวมร้านอาหาร ร้านกาแฟชื่อดัง และจะเพิ่มจุดขายทางการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดคนไทยให้เข้ามาพักมากขึ้น”
นายสุเมธ ยังเผยอีกว่า แผนงานทั้งหมดตนเองพร้อมผู้บริหารได้มีการประชุมร่วมกันมาโดยตลอด และยังมีแนวคิดที่จะปรับรูปแบบการแสดงโชว์ของเสือให้มีความหลากหลายและมีเรื่องราวด้วยการจัดตั้งโรงละครสัตว์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลและวิกฤตโรคระบาดว่าจะจบสิ้นเมื่อใด
ขณะเดียวกัน แม้ที่ผ่านมาสวนเสือศรีราชา แทบจะไม่ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ในส่วนของบริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ที่เปิดพื้นที่ด้านหน้าเป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากจระเข้ทั้งกระเป๋าหนังจระเข้ เนื้อจระเข้ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและอื่นๆ ยังคงเปิดบริการตามปกติ
“ในช่วงที่ยังไม่เกิดสถานการ์ณแพร่ระบาดศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากจระเข้จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าซื้อสินค้าไม่น้อยกว่า 300-500 คน และมีรายได้จากการจำหน่ายถึงหลักล้านบาทต่อวัน รวมทั้งยังสามารถส่งออกเนื้อจระเข้ไปยังประเทศญี่ปุ่นและจีนจนสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศหลายพันล้านบาท”
แต่ขณะนี้ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศหายไปกว่า 50% จากการชะลอใช้จ่ายของคู่ค้า แต่อย่างไรก็ดี ยังพอมีกำลังซื้อจากคนไทยที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้จนมีรายได้เลี้ยงพนักงานแต่ยังไม่มากนัก
“วันนี้เฉพาะค่าใช้จ่ายในฟาร์มจระเข้ศรีราชาเพียงแห่งเดียว ทั้งค่าอาหารจระเข้ เงินเดือนพนักงานเราต้องแบกรับมากถึง 10 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์จากจระเข้มีประมาณ 30% นอกจากนั้น เรายังจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าลง 70% เพื่อกระตุ้นยอดขายสำหรับกลุ่มลูกค้าชาวไทยอีกด้วย”