บี.กริม เพาเวอร์ตั้งเป้าปี 64 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 900-1,000 เมกะวัตต์ เผยอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนและ M&A โรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ แย้มเตรียมนำเข้า LNG กลางปีหน้าราว 2.5 แสนตัน พร้อมชง กกพ.ขอนำเข้า LNG เพิ่มเติม
นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนในปี 2564 ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าในปัจจุบัน และโครงการที่เพิ่มเข้ามาในอนาคต ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2564 บริษัทจะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นอีก 900-1,000 เมกะวัตต์ (MW) มาจากการร่วมลงทุนและเข้าซื้อกิจการ (M&A) และโครงการลงทุนใหม่ โดยจะทยอยปิดดีลหลายโครงการในต้นปีหน้า
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าทำ M&A โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในมาเลเซีย ขนาด 200-350 เมกะวัตต์ ซึ่งจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในไทย 2-3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 300-360 เมกะวัตต์ รวมทั้งเจรจาร่วมทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม 1-2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 100-200 เมกะวัตต์ ซึ่งจะต้องบรรลุดีลให้ได้ในต้นปี 2564 เพื่อให้สามารถก่อสร้างแล้วเสร็จตามกำหนด COD ในปลายปี 2564 และดีลเจรจาเพื่อร่วมทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเกาหลีใต้ คาดว่าจะปิดดีลได้ในช่วงไตรมาส 1/2564 ขณะเดียวกันยังมีโอกาสการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่จากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในเวียดนาม ในรูปแบบ LNG to Power ราว 2,000-3,000 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสรุปได้ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า
นายลิงค์กล่าวต่อไปว่า บริษัทยังมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อขยายโอกาสการลงทุน ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และบริษัท พีอีเอ เอ็มคอม อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (PEA ENCOM) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ กฟภ. เพื่อเข้ามาช่วยพัฒนาโครงข่ายและสายส่ง ช่วยสร้างเครือข่ายและต่อยอดธุรกิจไฟฟ้าเข้าไปในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงมองโอกาสการพัฒนาโครงการระบบไมโครกริด ระบบสมาร์ทไมโครกริดต่างๆ ในอนาคตด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีในช่วงกลางปี 2564 จำนวน 2.5 แสนตัน และปี 2565 นำเข้าเพิ่มขึ้น 3.5 แสนตันและปีถัดไปนำเข้าเพิ่มเป็น 6.5 แสนตันต่อปีเพื่อป้อนโรงไฟฟ้า SPP Replacement 5 โรง ขณะนี้รอคณะทำงานด้านการนำเข้าแอลเอ็นจี ซึ่งมีนายณอคุณ สิทธิพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ที่จะกำหนดหลักเกณฑ์ทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ม.ค. 64
โดย บี.กริมฯ มีแผนรุกตลาดขายก๊าซฯ ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมทั้งในและนอกนิคมฯ โดยมั่นใจว่าต้นทุนราคาขายก๊าซฯ ต่ำกว่า ปตท. ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการเจรจากับลูกค้าในนิคมฯแล้ว โดยบี.กริมฯจะยื่นเสนอต่อ กกพ.เพื่อขอนำเข้าในปริมาณที่สูงขึ้น เชื่อว่าจะได้รับอนุมัติ
ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย (LNG Shipper ) จำนวน 6.5 แสนตัน เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าของบริษัท
ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือ 3,682 เมกะวัตต์ โดยเป็นกำลังการผลิตที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 3,089 เมกะวัตต์ และมีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่องไปสู่เป้าหมาย 7,200 เมกะวัตต์ภายในปี 2568