รัฐบาลโชว์ผลงานดันราคา “ยางพารา” ล่าสุดยางแผ่นดิบรมควันราคาเกินกิโลกรัมละ 60 บาทแล้ว หลังมาตรการเชิงรุกได้ผล ทั้งนำไปทำหลักกิโลฯ แถมตลาดโลกฟื้นตัว มีความต้องการใช้ทำยางรถยนต์ ถุงมือยาง เตรียมจัดแมตชิ่งออนไลน์อีกวันนี้ คาดขายได้อีกหลายหมื่นตัน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลสามารถผลักดันให้ราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยราคายางแผ่นดิบรมควันแตะกิโลกรัม (กก.) ละ 60 บาท และบางช่วงเกิน 60 บาทแล้ว น้ำยางข้นราคา กก.ละ 50 กว่าบาท และยางก้อนถ้วย กก.ละ 20-22 บาท และคาดว่าราคาจะดีขึ้นอีกเพราะมาตรการที่รัฐบาลได้ดำเนินการมา ทั้งการส่งเสริมให้มีการนำยางพารามาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยทางถนน ทั้งการทำแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีต และหลักนำทางยางธรรมชาติ รวมถึงการหาตลาดล่วงหน้า และการใช้มาตรการเสริม ทำให้มีความต้องการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้น
“ปัจจุบันความต้องการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้นจากมาตรการของรัฐบาล ที่ส่งเสริมให้กระทรวงคมนาคมประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำยางพาราไปทำเสาหลักกิโลเมตร ตอนนี้ได้อนุมัติงบประมาณดำเนินการไปแล้ว และผลจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวทำให้มีความต้องการใช้รถยนต์เพิ่มขึ้น การใช้ยางรถยนต์ก็เพิ่มตาม ทำให้ยางแผ่น ยางแท่งขายได้ดีขึ้น ที่สำคัญ ผลจากโควิด-19 ระบาด ทำให้มีการใช้น้ำยางข้นไปทำถุงมือยางเพิ่มมากขึ้น ความต้องการก็เพิ่ม เลยส่งผลต่อเนื่องทำให้ราคายางของเกษตรกรดีขึ้น”
นอกจากนี้ ยังมีผลจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้ทำตลาดล่วงหน้า มีการทำสัญญาซื้อขายกับหลายประเทศ เช่น จีน ตุรกี ทำให้ปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการส่งมอบ ทำให้มีการซื้อยางพาราเพิ่มขึ้น และในวันที่ 1 ต.ค. 2563 จะมีการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์สินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพาราผ่านทางออนไลน์ระหว่างผู้ซื้อ ผู้นำเข้า กับผู้ประกอบการของไทย คาดว่าจะขายยางได้อีกหลายหมื่นตัน ซึ่งจะส่งผลให้มีการซื้อยางพาราจากเกษตรกรเพิ่มขึ้นอีก
ขณะเดียวกัน ผลจากการที่กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดให้ยางพาราเป็นสินค้าควบคุม และมีมาตรการให้ผู้ประกอบการรายงานสต๊อก และมีโครงการช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการที่ซื้อยางมาเก็บสต๊อก 2% และกระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งจะทำให้มีการเร่งซื้อยางเข้ามาเก็บสต๊อก ทำให้ยางพาราปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากราคายางพาราต่ำกว่าราคาประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางก็จะได้รับการชดเชยส่วนต่างจากรัฐบาล ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางได้รับการดูแล โดยปัจจุบันโครงการระยะที่ 2 คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติได้เห็นชอบในหลักการแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา วงเงิน 31,013.27 ล้านบาท ครอบคลุมเกษตรกร 1.83 ล้านราย มีราคาประกันรายได้ ยางแผ่นดิบ กก.ละ 60 บาท น้ำยางสด 100% กก.ละ 57 บาท และยางก้อนถ้วย กก.ละ 23 บาท