กทพ.จ่อล้มประมูล “ด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง” 2 สัญญาใหม่ ปมผู้รับเหมาร้องเรียนทำป่วน เตรียมรื้อทีโออาร์ไม่ให้มีร้องอีก และต้องลดเวลาก่อสร้างลง ปรับราคากลางตามภาวะปัจจุบัน ส่วนสัญญา 5 ทีโออาร์เสร็จ ก.ย. พร้อมประมูลด่านไร้ไม้กั้น
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงโครงการทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกกรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปผลการประมูลใน 2 สัญญาได้ คือ สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางยกระดับจากแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เซ็นทรัลพระราม 2 ระยะทาง 6.4 กม. และสัญญาที่ 3 งานก่อสร้างทางยกระดับจากโรงพยาบาลบางปะกอก 9-ด่านดาวคะนอง ระยะทาง 5 กม. เนื่องจากมีประเด็นที่ผู้รับเหมายื่นฟ้องร้องต่อศาล และยื่นอุทธรณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการอย่างมาก
ทั้งนี้ หากได้ข้อสรุปว่าต้องยกเลิกและเปิดประมูลใหม่ กทพ.จะต้องปรับปรุงแผนงานและลดระยะเวลาในการก่อสร้างของสัญญาที่ 1 และ 3 ลง เพื่อให้ก่อสร้างแล้วเสร็จ สอดคล้องกับสัญญา 2 และ 4 ที่ได้ลงมือก่อสร้างไปก่อนแล้ว
“ตอนนี้สัญญาที่ 1 มีประเด็นอุทธรณ์ ซึ่งผมได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการอุทธรณ์แล้ว ส่วนสัญญาที่ 3 มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ซึ่งต้องรออย่างเดียวเพราะเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ปัญหาคือ หากต้องประมูลใหม่จะต้องเร่งรัดการก่อสร้าง งานจะยากมากขึ้น ผู้รับเหมาต้องเก่ง เพื่อให้งานก่อสร้างทั้งหมดเสร็จพร้อมกัน” นายสุรเชษฐ์กล่าว
แหล่งข่าวจาก กทพ.กล่าวว่า สัญญาที่ 3 นั้น คณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ได้พิจารณาไปแล้วแต่ผู้รับเหมาได้ไปยื่นศาลปกครอง ซึ่งตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 นั้น ถือว่าความเห็นของคณะกรรมการอุทธรณ์เป็นที่สุด กรณีฟ้องศาลเป็นเรื่องเชิงความเสียหายเท่านั้น จะไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการประมูล ซึ่งหากศาลมีคำสั่งไม่คุ้มครอง กทพ.จะต้องดำเนินการตามคณะกรรมการอุทธรณ์ได้พิจารณาไว้ คือเปิดประมูลสัญญา 3 ใหม่
โดยจะต้องทำราคากลางใหม่ และจะมีการปรับปรุงทีโออาร์ให้มีความชัดเจนมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดการร้องเรียนอีก รวมถึงต้องปรับลดระยะเวลาก่อสร้างลง จากทีโออาร์เดิม 39 เดือน เป็น 33-34 เดือน เพื่อให้งานเสร็จใกล้เคียงกับสัญญา 2 และ 4 ซึ่งขณะนี้สัญญา 4 การก่อสร้างมีความคืบหน้าแล้ว 10%
สำหรับในด้านวิศวกรรมสามารถทำได้ โดยเพิ่มเครื่องมือเครื่องจักร และใช้เทคโนโลยีมากขึ้น โดยคาดว่าจะใช้เวลาปรับปรุงทีโออาร์ 1 เดือน จากนั้นจะเร่งประกาศขายซองและให้ยื่นข้อเสนอ คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณา 3-4 เดือน
ทั้งนี้ การทำราคากลางใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับดัชนีผู้บริโภค และตัวเลขทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยจะต้องมีการสืบราคาต้นทุน และตัวเลขที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงพาณิชย์ และยอมรับว่าการกำหนดเวลาก่อสร้างที่น้อยลงจะมีผลทำให้ราคากลางในการประมูลใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิม แต่เชื่อว่าจะไม่เกินกรอบวงเงินรวมของโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้ 30,437 ล้านบาท
สำหรับสัญญาที่ 5 ระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง ระบบควบคุมจราจรและระบบสื่อสาร มูลค่าประมาณ 900 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะสรุปร่างทีโออาร์ได้ในเดือน ก.ย.นี้ และเปิดประมูลต่อไป โดยจะปรับจากเดิมที่จะใช้ระบบการจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ Easy Pass แบบมีไม้กั้น เป็นระบบ Single-Lane (Nonstop lane) ที่ไม่มีไม้กั้น