xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์บุรีรัมย์” ทำงานเชิงรุก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผลผลิตข้าว ก่อนเตรียมมาตรการรับมือ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์” ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ข้าวปี 2563/64 เพื่อประเมินแนวโน้มผลผลิต และเตรียมมาตรการรับมือเป็นการล่วงหน้า พร้อมตรวจสอบการรับซื้อข้าวของโรงสี ติดตามผลการใช้มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปี 2562/63 เผยยังได้ชี้แจงโครงการประกันรายได้ข้าวปีที่ 2 และมาตรการเสริมที่จะนำมาใช้แก่เกษตรกร โรงสี และผู้ประกอบการ

นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ได้ร่วมกับกรมการค้าภายในนำคณะลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ระหว่างวันที่ 8-9 ส.ค. 2563 ติดตามสถานการณ์ด้านการผลิตและการตลาดข้าวปีการผลิต 2563/64 ว่า ปริมาณผลผลิตข้าวจะมีจำนวนเท่าใด สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะได้เตรียมการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ตามนโยบายที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์ในส่วนกลางที่ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ทำการสำรวจสถานการณ์ผลผลิตทางการเกษตร และเตรียมมาตรการช่วยเหลือเป็นการล่วงหน้า

ทั้งนี้ ผลการสำรวจติดตามสถานการณ์ร่วมกับกลุ่มเกษตรกร อ.พลับพลาชัย พบว่าปีการผลิต 2563/64 จ.บุรีรัมย์ ได้กำหนดเป้าหมายการปลูกข้าวนาปี จำนวน 2,547,500 ไร่ มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนเพาะปลูกแล้ว 168,847 ราย พื้นที่ 2,046,257 ไร่ เป็นข้าวหอมมะลิ พื้นที่ 1,996,392 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิต 708,719 ตัน เพิ่มขึ้น 10% ส่วนผลผลิตข้าวรวมทุกชนิดคาดว่าจะมีปริมาณ 1,135,662 ตัน เก็บไว้ทำพันธุ์ 50,745 ตัน เก็บไว้บริโภค 376,983 ตัน และเหลือจำหน่าย 707,934 ตัน

ขณะเดียวกัน ได้ติดตามสถานการณ์ด้านการตลาดข้าว ณ โรงสีมณีราชกิจ 2 อ.พลับพลาชัย, โรงสีไฟสุรินทร์เกียรติอาภาเดช อ.เมืองสุรินทร์ และที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุรินทร์ไชยศิริ อ.จอมพระ พบว่าการซื้อขายข้าวเปลือกเป็นไปตามปกติ แต่มีปริมาณข้าวเข้าสู่โรงสีน้อย เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูนาปรัง และยังได้ติดตามมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2562/63 คือ โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ณ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.สุรินทร์ จำกัด จ.สุรินทร์ และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก ที่โรงสีไฟสุรินทร์เกียรติอาภาเดช ซึ่งพบว่าประสบความสำเร็จ เพราะสามารถช่วยดึงผลผลิตข้าวในช่วงที่ผลผลิตออกมามากได้ และทำให้ราคาข้าวเปลือกปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้ ได้ทำการชี้แจงเกษตรกร โรงสี และผู้ประกอบการค้าข้าว เกี่ยวกับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 2 ที่จะเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2563-1 พ.ค. 2564 และมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2563/64 ได้แก่ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก, โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร, โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก, โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่จะสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่, โครงการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก และโครงการยกระดับคุณภาพและต่อยอดด้านการตลาดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น