xs
xsm
sm
md
lg

สกพอ.ลั่นจัดทำผังอีอีซีเป็นไปตามกฎหมายท้วงติง ต้องยื่น 90 วันก่อนมีผลบังคับใช้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สกพอ.” แจงกรณีเครือข่ายประชาชน 3 จังหวัด ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี ยื่นศาลฯ ขอให้เพิกถอนประกาศแผนผังอีอีซี ต้องยื่นทักท้วงก่อนมีผลบังคับใช้ 90 วัน หรือตั้งแต่ 10 ธ.ค.-10 มี.ค. 63 ลั่นทุกอย่างดำเนินงานตามขั้นตอนทางกฎหมาย คำนึงถึงประชาชน รักษาพื้นที่สีเขียวและพื้นที่รักษาสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ธรรมชาติถึง 78.76%

น.ส.ทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการสายงานเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ สายงานพื้นที่และชุมชน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เครือข่ายภาคประชาชน 3 จังหวัด ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี ได้ยื่นต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2562 ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 นั้น สกพอ.ขอชี้แจงว่า การจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินฯ สกพอ.ได้ดำเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย หากต้องการท้วงติงต้องดำเนินการภายใน 90 วัน หลังจากประกาศฯ ผังเมืองอีอีซีมีผลบังคับใช้

“ขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเรื่อง แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. … เป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งคดีปกครองจะต้องยื่นคำฟ้องภายใน 90 วันนับแต่วันที่ประกาศผังเมืองมีผลบังคับใช้ หรือภายใน 10 ธ.ค. 62-10 มี.ค. 63 แต่ก็ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด” น.ส.ทัศนีย์กล่าว

สำหรับการจัดทำแผนผังอีอีซี สกพอ.ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน ยืนยันรับฟังความเห็นคนในพื้นที่ รวม 40 ครั้ง โดยร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง หน่วยงานรัฐและเอกชนในพื้นที่จัดทำรายละเอียดแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค คำนึงถึงความสัมพันธ์ โดยมีกำหนดไว้ชัดเจนใน พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 มาตรา 30 วรรคสาม ขณะที่การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมต่อการจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินฯ ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 มีการจัดรวมไม่ต่ำกว่า 40 ครั้ง แบ่งเป็นเวทีที่เป็นทางการกว่า 25 ครั้ง และเวทีที่ไม่เป็นทางการกว่า 15 ครั้ง และไม่มีการปรับพื้นที่เกษตรกรรมชั้นดีมาเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม แต่ได้มีการกำหนดพื้นที่ส่งเสริมเกษตรกรรมและพื้นที่โล่งเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น

“การจัดทำผังเมืองได้รักษาพื้นที่ป่าไม้เท่าเดิม รักษาพื้นที่เกษตรเท่าเดิม โดยส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่รักษาสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ธรรมชาติถึง 78.76% พื้นที่เมืองและชุมชน 13.23% และพื้นที่อุตสาหกรรมมีเพียง 5.12% และพื้นที่อื่นๆ (เขตทหาร แหล่งน้ำ) 2.89% โดยปรับลดพื้นที่ที่สภาพปัจจุบันไม่เหมาะสมต่อการทำการเกษตรแล้วเพียง 8.29% เพื่อเตรียมรองรับการใช้ประโยชน์สูงสุดในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยภาพรวมยังเป็นพื้นที่เดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง และยังจัดระบบให้มีประสิทธิภาพ” น.ส.ทัศนีย์กล่าว

นอกจากนี้ สกพอ.และกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) ดำเนินการชี้แจงและทำความเข้าใจแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินฯ กับกลุ่มเครือข่ายเพื่อนตะวันออกเป็นการเฉพาะมาโดยตลอด ดังนี้ อาทิ ทำหนังสือชี้แจงระหว่างเดือน ก.ค. 62-10 มี.ค. 63 สกพอ.ร่วมกับ ยผ. ได้มีหนังสือตอบชี้แจงประเด็นข้อร้องเรียนทั้งหมดมากกว่า 10 ครั้ง ผลการร่วมประชุมหารือเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 62 ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม วันที่ 30 ส.ค. 62 ได้มีกลุ่มชาวบ้านตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี มากกว่า 60 คน เดินทางมายื่นหนังสือนำเรียน นรม. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้เดินหน้าโครงการ EEC และขอให้เร่งรัดประกาศใช้แผนผัง EEC โดยเร็ว เนื่องจากเป็นความต้องการของคนในพื้นที่ที่แท้จริง โดยในการเรียกร้องให้เดินหน้าโครงการ EEC ครั้งนี้ ได้มีประชาชนในพื้นที่ร่วมลงชื่อจำนวนมากกว่า 500 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น