“กัลฟ์” เตรียมนำเข้า LNG ตลาดจรในปลายปีนี้ ล็อตแรก 6.5 แสนตัน ป้อนโรงไฟฟ้า SPP จับตาปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศอย่างน้อย 1 ดีลในปี 63
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ตลาดจร (SPOT) ล็อตแรกในปลายปี 2563 คิดเป็นปริมาณ 6.5 หมื่นตันเพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้า SPP ในเครือกัลฟ์
ส่วนการนำเข้า LNG เพื่อป้อนให้โรงไฟฟ้าหินกอง ขนาดกำลังผลิต 1.4 พันเมกะวัตต์นั้น คงให้ทางบริษัท ราชกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการจัดหาและนำเข้า LNG เอง
ทั้งนี้ กัลฟ์ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้ประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) เป็นปริมาณ 300,000 ตันต่อปี โดยบริษัทฯ จะจำหน่ายก๊าซธรรมชาติปริมาณดังกล่าวให้แก่โรงไฟฟ้า SPP จำนวน 19 โครงการของกลุ่มบริษัท เพื่อผลิตไฟฟ้าจำหน่ายแก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ซึ่งการนำเข้า LNG จะช่วยทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าโดยรวมของโรงไฟฟ้า SPP ในกลุ่มบริษัทลดลงซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าไฟของลูกค้าอุตสาหกรรมของโรงไฟฟ้าดังกล่าวลดต่ำลงด้วยเช่นกัน
ส่วนบริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (HKH) บริษัทร่วมทุนที่กัลฟ์ถือหุ้น 49% และบริษัท ราชกรุ๊ป (RATCH) ถือหุ้น 51% ได้ขอรับอนุมัติจาก กกพ.ให้เป็นผู้จัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ปริมาณ 1.4 ล้านตันต่อปี เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า
นายสารัชถ์กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ยังเดินหน้าแสวงหาโอกาสการเติบโตต่อเนื่องแม้ว่าจะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ บริษัทได้เจรจาเข้าซื้อหรือควบรวมกิจการ (M&A) หรือร่วมทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศทั้งเวียดนาม และแถบยุโรป เน้นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการผลิตแล้วเพื่อสร้างผลกำไรทันที และบริษัทจะถือหุ้นใหญ่เกิน 50% ขึ้นไป คาดว่าภายในปีนี้จะปิดดีลได้อย่างน้อย 1 โครงการ
ส่วนความคืบหน้าโครงการร่วมลงทุนในงานดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง 2 สาย ได้แก่ 1. สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และ 2. สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) ว่า คาดว่าจะลงนามสัญญาความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่ามีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน อยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท และปี 2564 มีรายได้โตขึ้น 35% แตะ 5 หมื่นล้านบาท และการลงทุนต่างๆ ยังจะเป็นไปตามแผนลงทุนในช่วง 5 ปี ที่จะใช้เงินลงทุน 1.4 แสนล้านบาท