xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.เล็งออกหุ้นกู้ 4.4 หมื่นล้าน ใช้เป็นทุนหมุนเวียน-จ่ายหนี้ครบกำหนดชำระ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปตท.เตรียมออกหุ้นวงเงิน 44,000 ล้านบาทภายใน 2 ปีนี้ เพื่อคืนหนี้ที่ครบกำหนดชำระและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ยันฐานะการเงินแข็งแกร่งหลังมีลูกหนี้การค้าบางรายขอยืดเทอมชำระหนี้

นางสาวพรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ปตท.มีแผนจะออกหุ้นกู้ตามกรอบวงเงินเดิมที่เคยขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นไว้แล้ว 44,000 ล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการภายใน 2 ปี (2563-2564) เพื่อใช้ในการรีไฟแนนซ์หนี้ที่ครบกำหนดชำระ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และลงทุนในโครงการต่างๆ ตามแผนงาน

ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาจังหวะเวลาที่เหมาะสมและวงเงินในการออกหุ้นกู้ว่าจะสามารถดำเนินการในช่วงใด โดยปี 2563 ปตท.มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระประมาณ 27,000 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดชำระในเดือนพ.ค.ประมาณ 1,000 ล้านบาท และ พ.ย.นี้อีก 22,000 ล้านบาท ส่วนปี 2564 ก็มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดต้องชำระอีกประมาณ 15,000 ล้านบาท

“การออกหุ้นกู้ภายใต้กรอบวงเงิน 44,000 ล้านบาทนั้นไม่ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2563 ในวันที่ 3 ก.ค. 2563 เนื่องจากเป็นกรอบวงเงินเดิมที่ได้ขอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นไว้แล้ว และไม่มีแผนจะเสนอขออนุมัติผู้ถือหุ้นเพื่อออกหุ้นกู้เพิ่มเติมด้วย”

นางสาวพรรณนลินกล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่าลูกค้าการค้าบางรายขอขยายระยะเวลาชำระหนี้จากบริษัท เช่น กลุ่มลูกค้าสายการบิน และลูกค้าอุตสาหกรรมก๊าซฯ เป็นต้น ซึ่งก็มีจำนวนไม่มาก ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของบริษัทแต่อย่างใด แม้ว่าไตรมาส 1/63 ปตท.ขาดทุนสุทธิ 1,554 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 29,312 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมัน การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้สกุลต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้นตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกลุ่ม ปตท.ขาดทุนสต๊อกฯ รวมกันในไตรมาส 1 ประมาณ 70,000 ล้านบาท เป็นสัดส่วนที่ ปตท.ถือหุ้นราว 50% หรือประมาณ 35,000 ล้านบาท โดยปัจจุบัน ปตท.มีเงินสดในมือประมาณ 50,000 ล้านบาท

ส่วนภาพรวมการดำเนินงานของกลุ่ม ปตท.ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ค่าการกลั่นมีแนวโน้มดีขึ้น โดยกลุ่มปิโตรเคมีราคาผลิตภัณฑ์ยังถูกกดดันจากกำลังการผลิตใหม่ที่เข้าสู่ตลาด เช่น จีน รวมทั้งจับตาระดับราคาน้ำมันว่าจะเป็นอย่างไร โดย ปตท.ประเมินสมมติฐานราคาน้ำมันดิบทั้งปีนี้อยู่ในกรอบ 30-40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 คาดว่าการขาดทุนสต๊อกน้ำมันจะไม่มากเท่ากับไตรมาส 1/63 แต่จะได้รับผลกระทบจากปริมาณการขายที่ชะลอลงจากมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐที่จะมีผลช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ ทำให้ปริมาณการขายน้ำมันและก๊าซฯ ลดลงไปมาก โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน (Jet) หลังสายการบินหยุดและราคาก๊าซฯ เริ่มปรับลดลงตามสูตรราคาขาย


กำลังโหลดความคิดเห็น