“สมคิด” นั่งหัวโต๊ะถกกองทุนอนุรักษ์พลังงานปรับลดเงินกองทุนฯ เหลือ 5.6 หมื่นล้านบาทจากงบเดิมปี 2563 หมื่นล้านบาทหลังล่าช้าและการใช้น้ำมันหดตัว ดึงงบ 3,600 ล้านบาท เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ จ้างงานหลังผลกระทบโควิด-19
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานและในฐานะประธานคณะทำงานกลั่นกรองกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้ปรับลดกรอบยุทธศาสตร์การจัดสรรเงินกองทุนฯ ปีงบประมาณ 2563 จากเดิม 10,000 ล้านบาทเหลือ 5,600 ล้านบาท เนื่องจากเหลือระยะเวลาดำเนินโครงการไม่มาก ประกอบกับการจัดเก็บรายได้เข้ากองทุนฯ อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายเพราะการใช้น้ำมันลดต่ำลงจากผลกระทบโควิด-19 โดยจะทำการเปิดให้ผู้สนใจเข้ายื่นเสนอโครงการปีงบ 2563 ดังกล่าวให้ได้ภายในต้น พ.ค.นี้ และคาดว่าจะเบิกจ่ายได้เดือน ก.ค.
"วงเงินที่ปรับลดลง 4,400 ล้านบาทจะโยกไปรวมกับงบปี 2564 เพื่อรักษาเสถียรภาพกองทุนฯ ระหว่างนี้ก็เตรียมพร้อมการดำเนินโครงการในปี 2564 ไปด้วยแล้ว" นายกุลิศกล่าว
สำหรับวงเงิน 5,600 ล้านบาทนั้นจะมีการใช้งบฯ ราว 3,600 ล้านบาท เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดจากผลกระทบโควิด-19 โดยจะเป็นงบที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศประสานงานกับพลังงานจังหวัดเสนอโครงการเข้ามา ทั้งโครงการโซลาร์สูบน้ำ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว การจ้างงาน การปลูกดอกไม้ การจัดทำห้องเย็นของแต่ละจังหวัด เพื่อรองรับการท่องเที่ยวฟื้นตัวหลังโรคโควิด-19 ที่จะคลี่คลายอย่างเห็นได้ชัดในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งการของบกองทุนฯ จะเปิดให้ทางจังหวัดเสนอโครงการและอนุมัติภายในเดือนพฤษภาคม และเริ่มเบิกจ่ายในเดือนกรกฎาคม
"งบกองทุนอนุรักษ์พลังงาน 3,600 ล้านบาท จะเน้นรองรับส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจฐานราก หลังผลกระทบโควิด-19 ส่งเสริมการจ้างงาน พัฒนาวิสาหกิจชุมชน การอบรมบุคคลากรในพื้นที่ เช่น กรณี อสม.(อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) จะมีบทบาทมากในการป้องกันโควิด-19 ก็เห็นว่าควรจะมีการนำงบส่วนนี้ไปอบรมชาวบ้านด้วย ส่วนงบที่เหลืออีกราว 2,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นงบผูกพันที่มีไว้เดิม" นายกุลิศกล่าว
