“สนธิรัตน์” เร่งรัดดึงเงินกองทุนอนุรักษ์หมื่นล้านกระตุ้น ศก. ดันให้เปิดยื่นภายใน เม.ย.

“สนธิรัตน์” มอบสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเร่งรัดเปิดให้หน่วยงานต่างๆ ยื่นขอสนับสนุนงบกองทุนอนุรักษ์ปีงบ 63 วงเงินหมื่นล้านบาทให้เร็วขึ้น 1 เดือนเป็นภายในเม.ย.นี้ หวังนำเม็ดเงินเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบนโยบายให้สำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) เร่งรัดการเปิดให้หน่วยงานต่างๆ ยื่นเสนอโครงการฯ เพื่อขอสนับสนุนเงินกองทุนฯ ประจำงบปี 2563 ที่มีวงเงินรวม 10,000 ล้านบาทให้เร็วขึ้น 1 เดือน จากเดิมกำหนดเปิดโครงการฯ ช่วงเดือนพฤษภาคมนี้เป็นภายในเมษายน เพื่อที่จะนำเม็ดเงินส่วนหนึ่งมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

“ในจำนวนนี้ทราบว่าจะมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากประมาณ 3,000 ล้านบาทจึงต้องการให้เร่งรัดที่จะให้เปิดโครงการเร็วขึ้นเพื่อนำเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ และร่วมแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพราะเงินกองทุนฯ ส่วนหนึ่งจะเป็นการสนับสนุนติดตั้งเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร หรือโซลาร์สูบน้ำบาดาล พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพลังงานประสานงานร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงมหาดไทย เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาด้วยการขุดบ่อบาดาลแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ประสบภัยแล้งประมาณ 20 จังหวัดแล้ว” นายสนธิรัตน์กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้มอบให้ ส.กทอ.เร่งรัดโครงการฯ ตกค้างปีงบประมาณปี 2560, ปี 2562 และปี 2562 (เพิ่มเติม) ที่เหลืออยู่ 10% ให้ดำเนินการเสร็จภายใน 60 วัน หรือเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ หลังจากก่อนหน้านี้โครงการตกค้างประมาณกว่า 1,000 โครงการ และได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว 80-90% หลังจากขีดเส้นให้เสร็จภายใน 31 มีนาคมนี้

"แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลกระทบต่อการเดินทางมาติดต่องบกองทุนอนุรักษ์ แต่ได้ให้ ส.กทอ. ปรับการทำงานมาเป็นการยื่นแบบออนไลน์ได้ ก็ให้ดูว่าดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งงบฯ ส่วนนี้หากเร่งออกไปก็จะช่วยจ้างงาน แก้ไขปัญหาภัยแล้ง ลดผลกระทบเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง" รมว.พลังงานกล่าว

รมว.พลังงานกล่าวด้วยว่า กลางเดือนเมษายนนี้จะประกาศโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากระยะแรก เพื่อเป็นหนึ่งในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ก็ได้ให้ผู้สนใจโครงการนี้ยื่นขอตรวจสอบจุดเชื่อมต่อระบบไฟฟ้า โดยมีขั้นตอนลงทะเบียนทางเว็บไซต์ของ 2 หน่วยงาน มีค่าบริการขอตรวจสอบจุดเชื่อมต่อในอัตราที่แตกต่างกัน