“สนธิรัตน์” จัดประชุมออนไลน์ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงานหารือเตรียมเปิดช่องทางจำหน่ายแอลกอฮอล์เข้มข้น 70% ฆ่าเชื้อโควิด-19 ราคาถูกให้ประชาชนผ่านปั๊มน้ำมันทั้งค่ายปตท. บางจาก เชลล์ และอื่นๆ คาด ปตท.นำร่องได้ 4 เม.ย.นี้ พร้อมเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอโรงไฟฟ้าชุมชน 17 เม.ย.นี้หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สั่งทุกหน่วยงานเร่งเฟ้นหามาตรการกระตุ้นศก.ด้านพลังงานเพิ่มเติม
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงานผ่านระบบออนไลน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายรัฐบาลว่า ที่ประชุมได้หารือที่จะนำเอทานอลส่วนเกินจากการใช้ในภาคพลังงาน 1 ล้านลิตรต่อวันมาผลิตเจลแอลกอฮอล์ และแอลฮอล์ฆ่าเชื้อทางการแพทย์ ความเข้มข้น 70% โดยกระทรวงพลังงานจะเข้ามาร่วมผลักดันให้มีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้นผ่านสถานีบริการน้ำมัน เช่น ปตท. บางจาก เชลล์ และผู้ค้ามาตรา 7 อื่นๆ ซึ่งเบื้องต้นได้รับแจ้งจาก ปตท.จะจำหน่ายได้ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.เป็นต้นไป
“ก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานได้ร่วมกับกรมสรรพสามิตในการปลดล็อกที่จะให้นำเอทานอลจากผู้ผลิตเอทานอล 26 ราย ซึ่งเป็นการจำหน่ายในส่วนของเชื้อเพลิงมาเป็นแอลกอฮอล์เพื่อการแพทย์ได้ แต่เนื่องจากกลไกการกระจายสินค้ายังมีจำกัด กระทรวงพลังงานจึงเข้ามาร่วมผลักดันให้เกิดช่องทางจำหน่ายผ่านสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเร่งรัดให้เกิดการจัดจำหน่ายได้เร็วที่สุดและมีราคาไม่แพง คาดว่าจะทำให้ปริมาณจำหน่ายแอลกอฮอล์มีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน จะช่วยป้องกันปัญหาการระบาดโควิด-19 ได้มาก” นายสนธิรัตน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานด้วยสถานการณ์ความจำเป็นในการใช้เอทานอลสำหรับแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นจึงจำเป็นต้องเลื่อนแผนดังกล่าวออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ ส่วนมาตรการส่งเสริมน้ำมันดีเซล B10 ปัจจุบันมียอดการใช้ประมาณกว่า 12 ล้านลิตร/วัน และคาดว่าเดือนเมษายนนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย 20 ล้านลิตร/วันได้
ส่วนการขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากคาดว่าจะสามารถประกาศเชิญชวนและรับข้อเสนอได้ตามกำหนดการเดิม ภายในวันที่ 17 เมษายน 2563 และจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งนโยบายนี้จะสามารถนำรายได้จากการที่ภาคเกษตรกรสามารถจำหน่ายเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะเศษวัสดุทางการเกษตร หญ้าเนเปียร์ กระจายสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเร่งมาตรการช่วยเหลือผลกระทบภัยแล้ง โดยเร่งรัดโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตรที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อรองรับภัยแล้งในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมใช้ 2,265 ระบบ
“ยังได้ฝากให้ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานได้ช่วยคิดแผนหรือมาตรการด้านพลังงานที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นและแก้ปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ของประเทศ โดยกระทรวงพลังงานจะใช้ทุกองคาพยพที่มีอยู่เพื่อเข้าไปช่วยแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการ SMEs เพื่อก้าวผ่านอุปสรรคไปพร้อมๆ กัน โดยขอให้สรุปในสัปดาห์นี้” นายสนธิรัตน์กล่าว