ผู้จัดการรายวัน360-"สนธิรัตน์" นั่งหัวโต๊ะ กบง. เคาะมาตรการลดค่าครองชีพช่วยประชาชนรับมือโควิด-19 ควักเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2.3 พันล้านบาท ลดราคาน้ำมันทุกชนิดลิตรละ 50 สตางค์ เว้น E85 ขึ้น 25 สตางค์ B20 ลดลงแค่ 25 สตางค์ ส่วน LPG ลด 3 บาทต่อกก. เป็นเวลา 3 เดือน มีผลวันนี้เป็นต้นไป ส่วน NGV รถโดยสารธารณะ รอ กบง. เคาะลด 3 บาทต่อกก. 25 มี.ค. เผยพิษโควิด-19ส่งผลให้ต้องเลื่อนเปิดสำรวจปิโตรเลียมรอบใหม่ และดัน E20เป็นน้ำมันพื้นฐานไม่มีกำหนด ระบุยังได้ประสานกรมสรรพสามิตให้ปั๊มน้ำมันขายแอลกอฮอล์ 70% ได้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เปิดเผยว่า กบน.ได้เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ด้วยการกำหนดอัตราเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่เป็นระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งจะมีผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลดลง 0.50 บาทต่อลิตร ยกเว้นดีเซลบี 20 ลดลง 0.25 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์ E85 เพิ่มขึ้น 0.25 บาทต่อลิตร และยังเห็นชอบลดราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) 3 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) หรือราคาต่อถัง 15 กก. จากเดิม 363บาทต่อถังเหลือ 318 บาทต่อถังเป็นเวลา 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ยังได้ขอความร่วมมือเร่งด่วนไปยังบมจ.ปตท. ให้พิจารณาลดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ลง 3 บาทต่อกก. จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 13.62 บาทต่อกก. สำหรับรถโดยสารสาธารณะเป็นเวลา 3 เดือน โดยจะต้องหารือรายละเอียดในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในวันที่ 25 มี.ค.นี้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้กระทรวงพลังงานต้องเลื่อนการเปิดให้เอกชนยื่นขอสิทธิและสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ (ครั้งที่ 23) บริเวณอ่าวไทยออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่จะเปิดในช่วงเม.ย.2563 เพราะขณะนี้ บริษัทต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาร่วมยื่นขอสำรวจได้ อีกทั้งราคาน้ำมันโลกอยู่ในภาวะตกต่ำ การเปิดประมูลช่วงนี้อาจไม่เหมาะสม เพราะจะกระทบรายได้ของรัฐ โดยการเปิดคงจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะสรุปได้เมื่อใด
เช่นเดียวกับการส่งเสริมให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน ที่จะต้องใช้เอทานอลมากขึ้น คงจะต้องเลื่อนออกไปจากเดิมที่กำหนดจะส่งเสริมในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ เนื่องจากส่วนหนึ่งต้องการนำเอทานอลไปเสริมความต้องการในการนำไปผลิตเจลล้างมือ ขณะเดียวกันยังได้ประสานงานกับกรมสรรพสามิตเพื่อขอผ่อนผันให้ปั๊มน้ำมันเป็นพื้นที่สามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ได้ เพื่อเป็นจุดให้ประชาชนสามารถมาซื้อไปผสมทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือได้สะดวก เพราะปัจจุบันนี้ แม้มีการผ่อนผันให้โรงงานเอทานอลขายแอลกอฮอล์ได้ แต่ก็ขายให้เฉพาะโรงงานผลิตเจลเท่านั้น โดยตั้งแต่โรงงานเอทานอลเริ่มขาย ทำให้ราคาแอลกออล์ในท้องตลาดลดลงอย่างรวดเร็ว
ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นโครงการที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยคาดว่าควิกวิน 100 เมกะวัตต์จะเริ่มเปิดให้เสนอได้เม.ย.2563
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ราคาขายปลีกน้ำมันที่ลดลงดังกล่าว จะเป็นเฉพาะการปรับเปลี่ยนเงินกองทุนฯ เท่านั้น ไม่รวมกับกรณีราคาตลาดโลกที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยอัตราเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ใหม่ เป็นการลดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด 0.50 บาทต่อลิตร เว้นดีเซลบี 20 ลดลง 0.25 บาทต่อลิตร และเพิ่มเก็บเงินแก๊สโซฮอล์ E85 จำนวน 0.25 บาทต่อลิตร
ส่วนLPG กบน. มีมติให้ลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันส่วนบัญชี LPG ชั่วคราว 3 เดือนจาก 4.9816 บาทต่อกก. เหลือ 2.1779 บาทต่อกก. หรือลดลง 2.8037 บาทต่อกก. มีผล 24 มี.ค.2563 ส่งผลให้ราคาขายปลีก LPG ลดลง 21.87 บาทต่อกก.เหลือ 18.87 บาทต่อกก.หรือลดลง 3 บาทต่อกก. ขณะที่ราคา NGV เดิมหารือกันที่จะตรึงราคาออกไป แต่รัฐมนตรีมองว่าเพื่อช่วยลดภาระ ก็ควรจะลดลงอีก คงจะต้องมาดูรายละเอียดใน กบง. อีกครั้งว่าจะมีการลดทั้งรถสาธารณะและรถทั่วไปด้วยหรือไม่อย่างไร
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวว่า จากการปรับเปลี่ยนเงินกองทุนน้ำมันฯ และบัญชีแอลพีจี ทำให้กองทุนฯ รับภาระจากมาตรการดังกล่าวรวม 2,300 ล้านบาท และคาดว่าฐานะกองทุนฯ ในช่วงดังกล่าวจะเหลือฐานะสุทธิราว 2 หมื่นกว่าล้านบาท ส่วนการเปลี่ยนแปลงอัตราเงินส่งกองทุนน้ำมันใหม่ ทำให้ E85 ปรับขึ้นราคา 0.25 บาทต่อลิตรนั้น เพราะไม่ต้องการให้เกิดการใช้เอทานอลจำนวนมาก เนื่องจากขณะนี้ส่วนหนึ่ง ต้องเร่งนำไปดูแลแอลกอฮอล์เพื่อทำเจลล้างมือ และราคาดีเซลB20 ลดแค่ 0.25 บาทต่อลิตร เพราะต้องการลดส่วนต่างกับB10ให้เหลือน้อยลงเพื่อส่งเสริมการใช้ B10
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เปิดเผยว่า กบน.ได้เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ด้วยการกำหนดอัตราเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่เป็นระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งจะมีผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลดลง 0.50 บาทต่อลิตร ยกเว้นดีเซลบี 20 ลดลง 0.25 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์ E85 เพิ่มขึ้น 0.25 บาทต่อลิตร และยังเห็นชอบลดราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) 3 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) หรือราคาต่อถัง 15 กก. จากเดิม 363บาทต่อถังเหลือ 318 บาทต่อถังเป็นเวลา 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ยังได้ขอความร่วมมือเร่งด่วนไปยังบมจ.ปตท. ให้พิจารณาลดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ลง 3 บาทต่อกก. จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 13.62 บาทต่อกก. สำหรับรถโดยสารสาธารณะเป็นเวลา 3 เดือน โดยจะต้องหารือรายละเอียดในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในวันที่ 25 มี.ค.นี้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้กระทรวงพลังงานต้องเลื่อนการเปิดให้เอกชนยื่นขอสิทธิและสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ (ครั้งที่ 23) บริเวณอ่าวไทยออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่จะเปิดในช่วงเม.ย.2563 เพราะขณะนี้ บริษัทต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาร่วมยื่นขอสำรวจได้ อีกทั้งราคาน้ำมันโลกอยู่ในภาวะตกต่ำ การเปิดประมูลช่วงนี้อาจไม่เหมาะสม เพราะจะกระทบรายได้ของรัฐ โดยการเปิดคงจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะสรุปได้เมื่อใด
เช่นเดียวกับการส่งเสริมให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน ที่จะต้องใช้เอทานอลมากขึ้น คงจะต้องเลื่อนออกไปจากเดิมที่กำหนดจะส่งเสริมในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ เนื่องจากส่วนหนึ่งต้องการนำเอทานอลไปเสริมความต้องการในการนำไปผลิตเจลล้างมือ ขณะเดียวกันยังได้ประสานงานกับกรมสรรพสามิตเพื่อขอผ่อนผันให้ปั๊มน้ำมันเป็นพื้นที่สามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ได้ เพื่อเป็นจุดให้ประชาชนสามารถมาซื้อไปผสมทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือได้สะดวก เพราะปัจจุบันนี้ แม้มีการผ่อนผันให้โรงงานเอทานอลขายแอลกอฮอล์ได้ แต่ก็ขายให้เฉพาะโรงงานผลิตเจลเท่านั้น โดยตั้งแต่โรงงานเอทานอลเริ่มขาย ทำให้ราคาแอลกออล์ในท้องตลาดลดลงอย่างรวดเร็ว
ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นโครงการที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยคาดว่าควิกวิน 100 เมกะวัตต์จะเริ่มเปิดให้เสนอได้เม.ย.2563
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ราคาขายปลีกน้ำมันที่ลดลงดังกล่าว จะเป็นเฉพาะการปรับเปลี่ยนเงินกองทุนฯ เท่านั้น ไม่รวมกับกรณีราคาตลาดโลกที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยอัตราเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ใหม่ เป็นการลดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด 0.50 บาทต่อลิตร เว้นดีเซลบี 20 ลดลง 0.25 บาทต่อลิตร และเพิ่มเก็บเงินแก๊สโซฮอล์ E85 จำนวน 0.25 บาทต่อลิตร
ส่วนLPG กบน. มีมติให้ลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันส่วนบัญชี LPG ชั่วคราว 3 เดือนจาก 4.9816 บาทต่อกก. เหลือ 2.1779 บาทต่อกก. หรือลดลง 2.8037 บาทต่อกก. มีผล 24 มี.ค.2563 ส่งผลให้ราคาขายปลีก LPG ลดลง 21.87 บาทต่อกก.เหลือ 18.87 บาทต่อกก.หรือลดลง 3 บาทต่อกก. ขณะที่ราคา NGV เดิมหารือกันที่จะตรึงราคาออกไป แต่รัฐมนตรีมองว่าเพื่อช่วยลดภาระ ก็ควรจะลดลงอีก คงจะต้องมาดูรายละเอียดใน กบง. อีกครั้งว่าจะมีการลดทั้งรถสาธารณะและรถทั่วไปด้วยหรือไม่อย่างไร
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวว่า จากการปรับเปลี่ยนเงินกองทุนน้ำมันฯ และบัญชีแอลพีจี ทำให้กองทุนฯ รับภาระจากมาตรการดังกล่าวรวม 2,300 ล้านบาท และคาดว่าฐานะกองทุนฯ ในช่วงดังกล่าวจะเหลือฐานะสุทธิราว 2 หมื่นกว่าล้านบาท ส่วนการเปลี่ยนแปลงอัตราเงินส่งกองทุนน้ำมันใหม่ ทำให้ E85 ปรับขึ้นราคา 0.25 บาทต่อลิตรนั้น เพราะไม่ต้องการให้เกิดการใช้เอทานอลจำนวนมาก เนื่องจากขณะนี้ส่วนหนึ่ง ต้องเร่งนำไปดูแลแอลกอฮอล์เพื่อทำเจลล้างมือ และราคาดีเซลB20 ลดแค่ 0.25 บาทต่อลิตร เพราะต้องการลดส่วนต่างกับB10ให้เหลือน้อยลงเพื่อส่งเสริมการใช้ B10
