นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
โดยมีมติเห็นชอบกำหนดนโยบายมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีกับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ (ทั้งของการไฟฟ้านครหลวง และของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) จาก 50 หน่วยต่อเดือน เป็น 90 หน่วยต่อเดือน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานดำเนินการโดยให้ใช้เงินเรียกคืนรายได้เพื่อให้การไฟฟ้า มีฐานะการเงินตามเกณฑ์ที่กำหนดมาเป็นแหล่งเงินในการสนับสนุนการดำเนินการ
นอกจากนี้ มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ ทั้งของการไฟฟ้านครหลวง และของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนของแต่ละรอบบิลสำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยไม่มีเบี้ยปรับ
ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงมหาดไทยเห็นว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งภาคครัวเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากกลับภูมิลำเนา และการทำงานภายในที่พักอาศัย ทำให้การใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้ไฟฟ้าที่เดิมเคยได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรี จำนวน 50 หน่วยไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้า จะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว เป็นผลให้มีภาระต้องชำระค่าไฟฟ้า ซึ่งในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มดังกล่าวอาจไม่สามารถชำระค่าไฟฟ้าได้ กระทรวงมหาดไทยจึงมีข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคดังกล่าวเพิ่มเติม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยระบุว่าการดำเนินมาตรการดังกล่าวจะเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า เป็นวงเงิน ประมาณ 9,375 ล้านบาท ดังนี้ 1. ค่าไฟฟ้าฟรี ระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างเดือนเมมษายน-มิถุนายน 2563 ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวม 3,029 ล้านบาท และจำนวนประชาชนที่ได้รับประโยชน์ รวม 6.435 ล้านราย 2. การขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า 3 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวม 6,346 ล้านบาท
โดยมีมติเห็นชอบกำหนดนโยบายมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีกับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ (ทั้งของการไฟฟ้านครหลวง และของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) จาก 50 หน่วยต่อเดือน เป็น 90 หน่วยต่อเดือน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานดำเนินการโดยให้ใช้เงินเรียกคืนรายได้เพื่อให้การไฟฟ้า มีฐานะการเงินตามเกณฑ์ที่กำหนดมาเป็นแหล่งเงินในการสนับสนุนการดำเนินการ
นอกจากนี้ มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ ทั้งของการไฟฟ้านครหลวง และของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนของแต่ละรอบบิลสำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยไม่มีเบี้ยปรับ
ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงมหาดไทยเห็นว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งภาคครัวเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากกลับภูมิลำเนา และการทำงานภายในที่พักอาศัย ทำให้การใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้ไฟฟ้าที่เดิมเคยได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรี จำนวน 50 หน่วยไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้า จะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว เป็นผลให้มีภาระต้องชำระค่าไฟฟ้า ซึ่งในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มดังกล่าวอาจไม่สามารถชำระค่าไฟฟ้าได้ กระทรวงมหาดไทยจึงมีข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคดังกล่าวเพิ่มเติม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยระบุว่าการดำเนินมาตรการดังกล่าวจะเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า เป็นวงเงิน ประมาณ 9,375 ล้านบาท ดังนี้ 1. ค่าไฟฟ้าฟรี ระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างเดือนเมมษายน-มิถุนายน 2563 ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวม 3,029 ล้านบาท และจำนวนประชาชนที่ได้รับประโยชน์ รวม 6.435 ล้านราย 2. การขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า 3 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวม 6,346 ล้านบาท