ผู้จัดการรายวัน 360 - ครม.เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้า ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ ใช้ไฟฟรี ไม่เกินเดือนละ 90 หน่วย ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟ สนองนโยบาย Work From Home พร้อมกันนี้ได้รับทราบการปรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ของสถานศึกษาเลื่อนจาก 16 พ.ค. เป็น 1 ก.ค. 63 ตามที่ศธ.เสนอ
วานนี้ (7 เม.ย.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ 1.เห็นชอบมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีกับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ ทั้งของการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)และของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) จาก 50 หน่วยต่อเดือน เป็น 90 หน่วยต่อเดือน โดยให้ใช้เงินเรียกคืนรายได้เพื่อให้การไฟฟ้ามีฐานะการเงินตามเกณฑ์ที่กำหนด มาเป็นแหล่งเงินในการสนับสนุนการดำเนินการ
2.มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาชำระค่าไฟฟ้า ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ (ทั้งของกฟน.และกฟภ.) เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือนของแต่ละรอบบิลสำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนเม.ย.-มิ.ย.2563 โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าให้กฟน. และกฟภ.โดยไม่มีเบี้ยปรับ
ทั้งนี้ เนื่องจาก กระทรวงมหาดไทยเห็นว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งภาคครัวเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากกลับภูมิลำเนา และการทำงานภายในที่พักอาศัย (Work From Home)ทำให้การใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้ไฟฟ้าที่เดิมเคยได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรี จำนวน 50 หน่วยไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้า จะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว เป็นผลให้มีภาระต้องชำระค่าไฟฟ้า ซึ่งในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มดังกล่าวอาจไม่สามารถชำระค่าไฟฟ้าได้ กระทรวงมหาดไทยจึงมีข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคดังกล่าวเพิ่มเติม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยระบุว่าการดำเนินมาตรการดังกล่าวจะเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า เป็นวงเงิน ประมาณ 9,375 ล้านบาท ดังนี้1.ค่าไฟฟ้าฟรี ระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย.2563 ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวม 3,029 ล้านบาท และจำนวนประชาชนที่ได้รับประโยชน์ รวม 6.435 ล้านราย 2.การขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า 3 เดือนเม.ย.-มิ.ย.2563ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวม 6,346 ล้านบาท
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติ รับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ การปรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โดยให้สถานศึกษา เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 จากวันที่ 16 พ.ค.63 เป็นวันที่ 1 ก.ค.63
วานนี้ (7 เม.ย.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ 1.เห็นชอบมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีกับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ ทั้งของการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)และของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) จาก 50 หน่วยต่อเดือน เป็น 90 หน่วยต่อเดือน โดยให้ใช้เงินเรียกคืนรายได้เพื่อให้การไฟฟ้ามีฐานะการเงินตามเกณฑ์ที่กำหนด มาเป็นแหล่งเงินในการสนับสนุนการดำเนินการ
2.มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาชำระค่าไฟฟ้า ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ (ทั้งของกฟน.และกฟภ.) เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือนของแต่ละรอบบิลสำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนเม.ย.-มิ.ย.2563 โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าให้กฟน. และกฟภ.โดยไม่มีเบี้ยปรับ
ทั้งนี้ เนื่องจาก กระทรวงมหาดไทยเห็นว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งภาคครัวเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากกลับภูมิลำเนา และการทำงานภายในที่พักอาศัย (Work From Home)ทำให้การใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้ไฟฟ้าที่เดิมเคยได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรี จำนวน 50 หน่วยไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้า จะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว เป็นผลให้มีภาระต้องชำระค่าไฟฟ้า ซึ่งในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มดังกล่าวอาจไม่สามารถชำระค่าไฟฟ้าได้ กระทรวงมหาดไทยจึงมีข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคดังกล่าวเพิ่มเติม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยระบุว่าการดำเนินมาตรการดังกล่าวจะเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า เป็นวงเงิน ประมาณ 9,375 ล้านบาท ดังนี้1.ค่าไฟฟ้าฟรี ระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย.2563 ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวม 3,029 ล้านบาท และจำนวนประชาชนที่ได้รับประโยชน์ รวม 6.435 ล้านราย 2.การขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า 3 เดือนเม.ย.-มิ.ย.2563ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวม 6,346 ล้านบาท
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติ รับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ การปรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โดยให้สถานศึกษา เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 จากวันที่ 16 พ.ค.63 เป็นวันที่ 1 ก.ค.63