“จุรินทร์”เตรียมเสนอ ครม. ช่วยชาวไร่ข้าวโพดตกค้าง 1.5 แสนราย ให้ได้รับเงินชดเชย แถมช่วยประกันภัยพืชผล หากเจอภัยพิบัติได้ไร่ละ 1.5 พันบาท เจอโรคระบาดได้ 750 บาท ส่วนมันสำปะหลังขอเพิ่มวงเงิน หลังงบเดิมไม่พอ เหตุราคาลดจากภัยแล้ง เชื้อแป้งลด และโควิด-19 ทำส่งออกสะดุด เผยได้เปิดช่องทางพิเศษให้เกษตรกรที่ปลูกพืช 5 ชนิด แจ้งปัญหา กรณีมีสิทธิ์ แต่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยประกันรายได้ ก่อนเข้าไปช่วยเหลือ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (13 เม.ย.) คณะกรรมการบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้มีมติขยายระยะเวลาโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ซึ่งเดิมเริ่มโครงการวันที่ 1 ก.ค.2562-31 พ.ค.2563 ทำให้เกิดช่วงฟันหลอ 1 เดือน คือ 1-30 มิ.ย.2562 เป็นผลให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเดือนนี้ ไม่ได้รับเงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ จึงเห็นชอบเปิดโอกาสให้เกษตรกรที่ปลูกช่วง 1-30 มิ.ย.2562 ได้รับเงินส่วนต่างด้วยในอัตรา 29 สตางค์ต่อกิโลกรัม (กก.) มีเกษตรกรประมาณ 1.5 แสนราย ที่จะได้รับเงิน หรือต้องใช้เงินงบประมาณ 670 ล้านบาท ซึ่งได้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำรองจ่ายไปก่อน และรัฐบาลจะตั้งงบประมาณจ่ายชดเชยให้ในปีถัดไป และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ยังได้เห็นชอบให้มีการทำประกันภัยพืชผลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้กับเกษตรกร หากประสบภัยพิบัติ 7 ชนิด เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม พายุ เป็นต้น และโรคระบาด โดยรัฐบาลจะร่วมมือกับ ธ.ก.ส. จ่ายเบี้ยประกันให้กับเกษตรกรในอัตราไร่ละ 160 บาท โดยรัฐบาลจ่าย 96 บาท ธ.ก.ส. ช่วยจ่าย 64 บาท หากต่อไปข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้รับความเสียหายจายภัยพิบัติ จะได้รับการชดเชยไร่ละ 1,500 บาท แต่ถ้าเป็นโรคระบาด จะได้รับชดเชยไร่ละ 750 บาท ใช้วงเงิน 313 ล้านบาท โดยให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายไปก่อน และรัฐบาลจะตั้งงบชดเชยให้ภายหลัง
ส่วนผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง ได้มีมติให้เพิ่มวงเงินชดเชยให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง เพราะขณะนี้ราคาหัวมันสดมีแนวโน้มลดลง จากปัญหาภัยแล้ง ทำให้เชื้อแป้งไม่ได้ตามเกณฑ์ และยังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ตลาดต่างประเทศมีปัญหาอุปสรรค โดยวงเงินที่มีอยู่เดิม ไม่น่าจะเพียงพอที่จะจ่ายชดเชยประกันรายได้ จึงเห็นชอบให้นำเสนอ ครม. เพื่อขออนุมัติวงเงินเพิ่มเติมอีก 460 ล้านบาท โดยการจ่ายเงินให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายไปก่อน และรัฐบาลจะชดเชยให้ปีถัดไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ขอความร่วมมือไปยัง 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ได้แก่ ขอให้ไปหารือร่วมกันร่วมกับตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์ว่าจะช่วยรับซื้อหัวมันสำปะหลังสดจากเกษตรกรในราคากก.ละ 2.30 บาท ที่เชื้อแป้ง 25% ได้หรือไม่ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ในยามวิกฤต และช่วยลดภาระของรัฐบาลที่จะต้องจ่ายส่วนต่าง โดยขอให้มีคำตอบโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดโครงการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิด ได้ดำเนินการมีความคืบหน้าโดยลำดับ แต่ยังพบปัญหามีเกษตรกรส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชย จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ตั้งศูนย์รับเรื่องจากเกษตรกรที่เชื่อว่าตัวเองมีสิทธิ์จากนโยบายประกันรายได้ แต่ไม่ได้รับเงิน หรือติดปัญหาอุปสรรคใดๆ ให้แจ้งเรื่องเข้ามายังสายด่วน 1569 จะมีเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่องให้เป็นการเฉพาะ และจะตรวจสอบข้อมูล ก่อนสั่งการไปยังผู้รับผิดชอบในแต่ละจังหวัด เพื่อช่วยเหลือให้เกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับชดเชยส่วนต่างต่อไป