“พาณิชย์” เผยผลการสำรวจสถานการณ์สินค้าช่วงโควิด-19 ระบาด พบคนเกิด “แพนิกชอปปิ้ง” ทำให้สินค้าขาดช่วงบ้าง เหตุคนซื้อพร้อมกัน ส่วนใหญ่เน้นอาหารสดและเครื่องปรุง อาหารสำเร็จรูป และของใช้จำเป็น ยันค้ามีเพียงพอ ไทยผลิตได้เอง กำลังผลิตยังเพิ่มได้อีก ขอประชาชนอย่าวิตก ระบุเจลล้างมือและแอลกอฮอล์ ผู้ผลิตได้เร่งผลิตเพิ่มแล้ว หลังรัฐปลดล็อกเรื่องวัตถุดิบ
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงกรณีที่ประชาชนเริ่มสำรองสินค้าอาหารและของใช้ เพราะกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า สนค.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงทั่วประเทศรอบพิเศษเพิ่มเติม และสอบถามรายละเอียดจากผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม โดยพบว่า สินค้าหลายรายการมีการขาดช่วงบ้าง เนื่องจากความต้องการเพิ่มสูงขึ้นมากพร้อมๆ กัน ทำให้พนักงานไม่สามารถจัดเรียงสินค้าได้ทัน แต่สต๊อกสินค้ายังคงมีอยู่อย่างเพียงพอ และราคายังอยู่ในระดับปกติ ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกและกังวลเรื่องอาหารและของใช้จำเป็นขาดแคลน โดยในช่วงนี้อาจไม่มีวางขายบ้างหรือหมดเร็ว แต่ก็จะเป็นเพียงในระยะสั้น เมื่อมีการปรับระบบการผลิตและการบริหารจัดการให้เหมาะสม ก็จะเพียงพอต่อความต้องการ
“ขอยืนยันว่าสินค้าในชีวิตประจำวันมีการผลิตเพียงพอในประเทศ หลังจากที่ประชาชนตื่นตระหนกต่อสถานการณ์การแพร่ระบาด และมีความกังวล รวมทั้งเริ่มปรับพฤติกรรมลดการออกนอกบ้าน ส่งผลให้มีการสต็อกอาหารและสินค้าจำเป็นต่างๆ เรียกว่าเกิด “แพนิกชอปปิ้ง” เกิดขึ้น เหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ และจากการสอบถามผู้ผลิต ทราบว่ามีวัตถุดิบในการผลิตเพียงพอ ยังเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกจากปัจจุบันที่เฉลี่ยอยู่ที่ 50-68% ของกำลังการผลิตรวม”
สำหรับสินค้าที่ประชาชนมีความต้องการเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติแยกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ อาหารสดและเครื่องปรุง มีการปรับพฤติกรรมจากเดิมซื้อพอใช้ไม่กี่มื้อ เป็นซื้อคราวละมากๆ เพื่อลดการออกนอกบ้าน ทำให้ร้านค้าปรับตัวไม่ทัน, อาหารสำเร็จรูป มีการสำรองสินค้าเพื่อไว้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติเมื่อประชาชนเกิดความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากประชาชนได้สำรองสินค้าเหล่านี้ในระดับที่พอใจแล้วก็คงกลับเข้าสู่พฤติกรรมปกติ และของใช้จำเป็น เช่นเดียวกับอาหารสำเร็จรูปที่ประชาชนต้องการสำรองไว้เพื่อความมั่นใจ
ส่วนเจลล้างมือและแอลกอฮอล์ที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการนั้น สนค.เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพราะสินค้ากลุ่มนี้เป็นสินค้าที่ไทยผลิตได้เอง อีกทั้งภาครัฐก็ได้ผ่อนปรนระเบียบต่างๆ ให้สามารถนำแอลกอฮอล์ส่วนเกินที่ใช้ในภาคพลังงานมาใช้ในการผลิตสินค้าเหล่านี้ได้มากขึ้น เชื่อว่าจะมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์ของสินค้าทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา หากมีความจำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่มเติมก็จะรีบดำเนินการต่อไปเพื่อมิให้กระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในทันที