"พาณิชย์" ถกผู้ผลิต-ห้างสรรพสินค้า ยันสินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการ กำลังการผลิตเหลือเฟือ เพิ่มได้อีก เผยไม่มีปัญหาวัตถุดิบ การขนส่งเหมือนช่วงน้ำท่วม ยันหากบางโรงงานเจอโควิด-19 จนต้องหยุดผลิต ก็มีโรงงานอื่นผลิตทดแทนได้ ส่วนห้างขึ้นป้ายสินค้าหมดแล้วหมดเลยเหตุเป็นช่วงจัดโปรโมชัน ด้านห้างรับเร่งเติมสินค้าหากชั้นวางโล่งเพื่อป้องกันการตื่นตระหนก
นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ประกอบการค้าปลีกประมาณ 56 ราย เพื่อหารือถึงสถานการณ์ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ผู้ผลิตยืนยันว่ายังมีกำลังการผลิตเหลือ 30-40% ที่จะสามารถผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคป้อนผู้บริโภคได้ และยืนยันไม่มีปัญหาเรื่องวัตถุดิบและการขนส่ง เช่นเดียวกับผู้ประกอบการค้าปลีกที่ได้ยืนยันมีสต๊อกเพียงพอต่อความต้องการ และจะให้ความร่วมมือวางสินค้าบนชั้นวางให้เร็วขึ้นเมื่อสินค้าหมดลงเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการให้มากขึ้น และขอให้ภาครัฐมีการเผยแพร่ข้อมูลให้ชัดเจนเพื่อลดความตระหนกและลดความไม่เข้าใจของประชาชน
"กรมฯ จะมีการติดตามสถานการณ์ปริมาณสินค้า และการกำหนดราคาจำหน่ายที่เหมาะสม โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่าไทยไม่มีปัญหาเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร เพราะไทยเป็นแหล่งผลิตอาหาร" นายประโยชน์กล่าว
นายฉัตรชัย ดวงรัตนพันธ์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ผู้ผลิตใช้กำลังการผลิตเพียง 70% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสินค้ามีไม่เพียงพอ หากความต้องการเพิ่มขึ้นก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ทันที ไม่เหมือนเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ เพราะตอนนั้นสินค้าขาดแคลนจากโรงงานถูกน้ำท่วมไม่สามารถผลิตได้ และไม่สามารถกระจายสินค้าได้ แต่ครั้งนี้ยังผลิตและกระจายสินค้าได้ แม้หากมีบางโรงงานเจอปัญหาโควิด-19 จนต้องหยุดโรงงาน แต่ก็ยังมีโรงงานอื่นๆ ที่จะสามารถผลิตทดแทนได้ ยกตัวอย่างเช่นข้าวถุง มีผู้ผลิตถึง 124 บริษัท และมีสต๊อกขั้นต่ำ 3 เดือน เป็นต้น
ส่วนที่มีการปิดป้ายว่าสินค้าหมดแล้วหมดเลยนั้นเพราะเป็นช่วงจัดโปรโมชันพอดี เมื่อความต้องการสูง สินค้าหมดก็ต้องเลิกโปรโมชันลดราคา ไม่ใช่เป็นเรื่องสินค้าไม่เพียงพอ
น.ส.ศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารห้างแม็คโคร กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการเข้ามาซื้อสินค้ามากกว่าปกติ โดยเฉพาะสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สูงถึง 50% แต่โดยรวมทั้งประเทศเพิ่ม 30% ซึ่งการเพิ่มขึ้นเป็นอิทธิพลของสื่อ ทำให้คนซื้อของเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ซึ่งในส่วนของห้าง ขอให้มั่นใจว่ามีการเตรียมสต๊อกเพียงพอ และมีการเติมสินค้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนสินค้าที่มีความต้องการสูงในช่วงนี้ คือ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ อาหารกระป๋องต่างๆ กระดาษชำระ สินค้าเกี่ยวกับซักล้าง และทำความสะอาด เป็นต้น
น.ส.ณัฏฐินี เนตรอำไพ ผู้จัดการส่วนอาวุโสส่วนองค์กรและสื่อมวลชนสัมพันธ์ บริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้สินค้าหลายชนิดมีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น โจ๊ก ซึ่งได้แก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 80% และยืนยันว่าสินค้ามีเพียงพอและสต๊อกมีต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 3 เดือน และยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าแน่นอน