“บอร์ด กทพ.” ลุยปิดคดีทางด่วน เผย “อัยการ” ผ่านร่างสัญญา เร่งชง ครม.คาดเซ็นต่อสัมปทานได้ตามกำหนด พร้อมตั้ง “วิชาญ” รักษาการผู้ว่าฯ กทพ. มีผล 6 ก.พ. หลัง “สุชาติ” ยื่นลาออก เตรียมเสนอ ครม. ดึงเงิน TFF ชำระหนี้เงินกู้ ระบายเงินล้นหน้าตัก ด้าน “สุรงค์” ชี้ต้องเร่งขยายทางด่วนแก้จราจรทั้งระบบ
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด กทพ.วันที่ 23 ม.ค.ว่า ในการต่อขยายสัญญาโครงการทางด่วน เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน เพื่อระงับข้อพิพาทคดีทางด่วนที่มีมูลค่าที่ 58,873 ล้านบาท โดยไม่มีการลงทุนก่อสร้างปรับปรุงทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) นั้น ล่าสุดคณะกรรมการกำกับฯ ตามมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ได้เห็นชอบแนวทางและผลการเจรจาแล้ว และอัยการสูงสุดได้ตรวจสอบหลักการทางกฎหมายของร่างสัญญาและส่งคืนมายัง กทพ.แล้ว รวมถึง บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้ตรวจร่างสัญญา และยอมรับเงื่อนไขตรงกันแล้ว จากนี้จะเร่งเสนอกระทรวงคมนาคมภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ และลงนามสัญญาต่อไป
“หาก ครม.เห็นชอบตามที่เสนอจะมีขั้นตอนในการถอนฟ้องข้อพิพาทของทั้งสองฝ่าย ซึ่งขณะนี้ถือว่า กทพ.ได้ดำเนินการภายใต้กรอบเวลาและเงื่อนไข ที่ข้อพิพาท ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคตในส่วนของทางแข่งขันจะไม่มีอีกแล้ว ถือว่าเป็นจุดจบความเจ็บปวดเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตทั้งหมด”
ส่วนกรณีที่สหภาพฯ กทพ.ยื่นหนังสือขอให้บอร์ดลาออกนั้น นายสุรงค์กล่าวว่า รับทราบเรื่องนี้แล้ว และเคารพในทุกความเห็น ซึ่งก็มีพนักงานอีกส่วนที่มีความเห็นต่างกัน ซึ่งในฐานะที่ยังทำหน้าที่อยู่จะรักษาผลประโยชน์ของ กทพ.และพนักงานอย่างดีที่สุด โดยหลังจากแก้ปัญหาข้อพิพาทสัมปทานโครงการทางด่วนและสรุปการประมูลโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนองแล้ว บอร์ดยังมีภารกิจในการดำเนินโครงการต่างๆ เช่น ทางด่วน เชื่อมจากบางนา-อาจณรงค์ (S1) เข้าสู่ท่าเรือกรุงเทพ, โครงการขยายทางพิเศษบูรพาวิถีเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์ชลบุรี, โครงการทางด่วนถนนรังสิต-องครักษ์ และทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 เชื่อมถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันออก-ตะวันตก ช่วงข้ามถนนวิภาวดีรังสิต และการแก้ปัญหาจราจรในภาพรวมทั้งระบบ
หารือคลัง ชี้ขาดการบันทึกหนี้ลงบัญชี
นอกจากนี้ บอร์ดได้ให้ กทพ.เร่งหารือกระทรวงการคลัง ถึงวิธีการลงบัญชีในการระงับข้อพิพาท 15 ปี 8 เดือน มูลค่า 5.83 หมื่นล้านบาท ว่าจะลงบันทึกเป็นหนี้ หรือไม่ลงบันทึกเป็นหนี้ เพื่อความชัดเจน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เคยสอบถามสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แล้วแต่ไม่มีคำตอบ สอบถามไปยังสภาวิชาชีพ ไม่มีคำตอบเป็นทางการ ทำให้ไม่สามารถสรุปไม่ได้
เสนอ ครม. ดึงเงิน TFF ชำระหนี้เงินกู้ ระบายเงินล้นหน้าตัก
อีกทั้งเตรียมเสนอ ครม.เพื่อรายงานเพื่อทราบ ขอนำเงินจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) มาชำระหนี้เงินกู้ที่มีต่อรัฐบาล แทนการกู้เงินมาชำระหนี้ ซึ่งปีนี้มีวงเงินหนี้ที่ต้องชำระประมาณ 7-8 พันล้านบาท นอกจากนี้เป็นการนำเงินจากกองทุน TFF ไปใช้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งได้หารือกับเลขาฯ ก.ล.ต.แล้วว่าเป็นดุลพินิจ สามารถทำได้ ไม่ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ในการระดมทุน และปัจจุบันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยังมีความล่าช้าทำให้ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยของกองทุน TFF ประมาณ 3,000 ล้านบาท
ตั้ง “วิชาญ” รักษาการผู้ว่าฯ กทพ.
นายสุรงค์กล่าวว่า บอร์ดรับทราบการลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทพ. ของนายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ และได้มีมติแต่งตั้ง นายวิชาญ เอกรินทรากุล รองผู้ว่าฯ กทพ. ฝ่ายกลยุทธ์และแผนงาน ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ กทพ. มีผลตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. 2563 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.การทางพิเศษฯ ข้อ 28 ที่กำหนดให้รองผู้ว่าฯ ที่อาวุโสสูงสุดทำหน้าที่รักษาการฯ
นอกจากนี้ บอร์ดยังได้อนุมัติผลการประกวดราคาโครงการก่อสร้างทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 (ทางยกระดับ จากโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล-ด่านดาวคะนอง) ระยะทาง 5 กม. ซึ่งกิจการร่วมค้าไชน่าเรลเวย์-ซีวิล-บุญชัย ประกอบด้วยบริษัท China Railway 11 th Bureau Group Corporation, บริษัท ซีวิล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เสนอราคาต่ำสุด 6,098 ล้านบาท หลังจากได้มีการชี้แจงรายละเอียดด้านคุณสมบัติของผลงานและคุณสมบัติของผู้รับเหมาที่ กทพ.ได้นำเสนอแล้ว โดยจะเปิดให้อุทธรณ์คำตัดสินตามระเบียบ หากไม่มีปัญหาจะมีการลงนามสัญญาต่อไป
ส่วนสัญญาที่ 1 (ทางยกระดับ จากทางต่างระดับบางขุนเทียน-ห้างเซ็นทรัล พระราม 2) ระยะทาง 6.4 กม. ยังมีประเด็นด้านดุลพินิจ ที่เป็นข้อกฎหมายต้องตีความเกี่ยวกับคุณสมบัติเรื่องมูลค่าผลงาน ซึ่งบอร์ดยังหาข้อสรุปไม่ได้ จึงให้ กทพ.หารือไปยังกรมบัญชีกลางและอัยการ ซึ่งเป็นหน่วยงานกลาง โดยให้เร่งหาข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์ โดยกิจการร่วมค้า CNA ประกอบด้วย บริษัท ไชน่าสเตทคอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่งคอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด เสนอราคาต่ำสุด 5,897 ล้านบาท
สำหรับสัญญา 2 (ทางยกระดับ จากห้างเซ็นทรัลพระราม 2-โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล )ระยะทาง 5.3 กม. ซึ่งบอร์ดอนุมัติแล้ว โดยกิจการร่วมค้าซีทีบี ประกอบด้วย บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์-ทิพากร-บุรีรัมย์ธงชัยก่อสร้าง เสนอราคาต่ำสุดที่ 6,440 ล้านบาท จะมีการลงนามสัญญาในวันที่ 29 ม.ค. 63 นี้
