xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” เคาะส่วนต่างโครงการประกันรายได้ข้าวงวดที่ 11 เกษตรกรปลูกข้าว 4 ชนิดได้รับเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์” เคาะจ่ายส่วนต่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว งวดที่ 11 เผยรอบนี้มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4 ชนิดได้รับเงินชดเชย แต่ข้าวเปลือกเหนียวไม่ได้ เหตุราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน ระบุรัฐจ่ายเงินส่วนต่างลดลงหลังราคาข้าวเปลือกสูงขึ้นจากมาตรการเสริมที่รัฐนำมาใช้ คาดงวดต่อไปแนวโน้มชดเชยน้อยลงอีก

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2563 คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง โดยมีมติให้จ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 11 ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจำนวน 4 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ส่วนข้าวเปลือกเหนียว ไม่จ่ายชดเชยส่วนต่างเพราะราคายังสูงกว่าราคาประกัน

การชดเชยส่วนต่าง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะจ่ายให้เกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 12-18 ม.ค. 2563 โดยมีรายละเอียด ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ราคาตลาดเฉลี่ยตันละ 7,892.75 บาท ได้รับส่วนต่างตันละ 2,107.25 บาท, ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาตลาดตันละ 9,661.39 บาท ได้รับส่วนต่างตันละ 1,338.61 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาตลาดตันละ 14,635.11 บาท ได้รับชดเชยตันละ 364.89 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาตลาดตันละ 13,888.57 บาท ได้รับชดเชยตันละ 111.43 บาท

“เงินส่วนต่างที่จ่ายลดลงต่อเนื่องจากราคาข้าวเปลือกในตลาดที่ขยับเพิ่มขึ้นเพราะมาตรการเสริมที่รัฐบาลได้นำมาใช้ผลักดันราคาข้าว โดยเฉพาะการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางตันละ 1,500 บาท ทำให้เกษตรกรชะลอการนำข้าวออกไปขาย และยังมีมาตรการช่วยสนับสนุนดอกเบี้ยให้กับสถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการค้าข้าวในการรวบรวมข้าวและเก็บสต๊อก ทำให้มีการดึงผลผลิตข้าวส่วนเกินออกจากตลาด ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยเชื่อว่าจากนี้ไปราคาข้าวจะสูงขึ้นต่อเนื่อง และงวดต่อๆ ไปน่าจะชดเชยน้อยลงเพราะผลผลิตข้าวลดลง ข้าวนาปรังเสียหายจากภัยแล้ง ทำให้มีการแย่งซื้อข้าวกันมากขึ้น” นายวิชัยกล่าว

สำหรับผลจากการคำนวณส่วนต่างงวดที่ 11 เกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยสูงสุด คือ ข้าวเปลือกเจ้า จะได้รับเงินรวม 63,217.50 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมได้เงินรวม 33,465.25 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิได้เงินรวม 5,108.46 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ได้เงินรวม 1,782.88 บาท

ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ประกันรายได้ข้าวเปลือกจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาท ครัวเรือนละ 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน แต่ถ้าเกษตรกรปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิด จะได้สิทธิไม่เกินจำนวนขั้นสูงของข้าวแต่ละชนิด และเมื่อรวมกันต้องไม่เกินขั้นสูงของข้าวชนิดที่กำหนดไว้สูงสุด


กำลังโหลดความคิดเห็น