นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 ม.ค. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้นัดเจรจากับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในวันที่ 6 ม.ค. 2563 เพื่อยุติข้อพิพาทคดีทางด่วนระหว่าง กทพ. กับ BEM และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL ที่มีมูลค่าที่ 58,873 ล้านบาท โดยการต่อขยายสัญญาโครงการทางด่วนเป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน โดยไม่มีการลงทุนก่อสร้างปรับปรุงทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) และการก่อสร้างใดๆ บนทางด่วน ตามที่กระทรวงคมนาคมได้มีนโยบาย ซึ่งยังเป็นไปตามกรอบเวลาที่วางไว้
ในการเจรจานั้น ได้ให้ กทพ.นำข้อท้วงติงของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทพ.ไปเจรจาด้วย คือประเด็นจะต้องไม่มีการฟ้องร้องกันอีกในอนาคต ดังนั้น หากการเจรจาวันที่ 6 ม.ค. ไม่มีปัญหาใดๆ และเป็นไปตามกรอบเงื่อนไขที่กำหนดไว้ กทพ.จะต้องสรุปและนำเข้าคณะกรรมการกำกับฯ ตามมาตรา 43 และกระบวนการแก้ไขสัญญาตามมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 โดยส่งร่างสัญญาที่จะแก้ไขให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาตามกระบวนการ และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ตามกรอบเวลา กทพ.จะเจรจากับ BEM วันที่ 6 ม.ค. และบอร์ด กทพ.ให้ความเห็นชอบ กทพ.จะสรุปผลและร่างเสนอคณะกรรมการ มาตรา 43 ในวันที่ 7 ม.ค. เพื่อเห็นชอบในการแก้ไขสัญญา จากนั้นจะต้องส่งร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดตรวจ เพื่อดำเนินการแก้ไขสัญญาตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ตามบทเฉพาะกาล มาตรา 68 ของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ในช่วงวันที่ 8-15 ม.ค. และเสนอ รมว.คมนาคม พิจารณาในช่วงวันที่ 16-24 ม.ค. และเสนอ ครม.พิจารณาในวันที่ 28 ธ.ค.เพื่อลงนามสัญญาต่อไป โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องเริ่มกระบวนการถอนฟ้องทุกคดี เนื่องจากสัญญาที่แก้ไขและขยายสัมปทานจะมีผลบังคับใช้ต่อเมื่อ กทพ.และ BEM ดำเนินการถอนฟ้องหมดแล้ว
ขณะนี้การดำเนินการเพื่อยุติข้อพิพาทคดีทางด่วนนั้นยังอยู่ในไทม์ไลน์ที่วางไว้ โดยสัญญาทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน AB และ C ปัจจุบันจะสิ้นสุดวันที่ 29 ก.พ. 2563
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้พิจารณาแนวทางการยุติข้อพิพาทโดยการแก้ไขสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 สัญญาเพื่อการต่อขยายโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วน D) และสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด โดยต่อขยายระยะเวลาสัมปทานทั้ง 3 สัญญาออกไปสิ้นสุดพร้อมกันในวันที่ 31 ตุลาคม 2578 (รวม 15 ปี 8 เดือน นับจากวันที่สัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน AB และ C สิ้นสุดลง) โดยไม่มีการลงทุนปรับปรุงทางด่วน (Double Deck)