xs
xsm
sm
md
lg

ปิดดีลทางด่วนไม่ลง! “วิษณุ”ชี้ กทพ.ต้องเจรจา BEM ให้จบก่อนชงครม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สรุปแนวทางยุติข้อพิพาททางด่วน ยังไม่จบ “ศักดิ์สยาม”เผย “วิษณุ“ ตีกลับ สั่งต้องเจรจา BEM ให้เรียบร้อย พร้อมชงกก.มาตรา 43 และส่งร่างสัญญาให้อัยการพิจารณาให้ครบก่อน คาดเสนอครม.ในม.ค. 63 ขณะที่ เสนอส่ง DSI สอบเอาผิดคนทำให้เกิดค่าโง่

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 24 ธ.ค. ยังไม่ได้นำเสนอข้อสรุปแนวทางการยุติข้อพิพาทระหว่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL โดยได้มีการรายงานข้อมูลต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับทราบถึง การต่อขยายสัญญาโครงการทางด่วน เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน แลกกับการยุติข้อพิพาททั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าที่ 58,873 ล้านบาท โดยไม่มีการลงทุนก่อสร้างปรับปรุงทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) แล้ว

ทั้งนี้ รองนายกฯ ได้รับฟังข้อมูลแล้วไม่ได้มีข้อขัดข้องใดๆ โดย ได้ให้ความเห็นว่า ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการตามมติครม. คือ ดำเนินการตามขั้นตอน ของคณะกรรมการกำกับฯ ตามมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 และเจรจากับ เอกชนให้ยุติ จากนั้นให้สรุปเรื่องนำเสนอครม.ในคราวเดียว

โดยกระทรวงคมนาคม และกทพ. รวมถึงสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ได้ทำแผนปฏิบัติการ ในการดำเนินงาน โดยภายในวันที่ 25 ธ.ค. กระทรวงคมนาคมจะส่งเรื่องให้กทพ. เพื่อดำเนินการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) กทพ.ที่มีนายสุรงค์ บูลกุล เป็นประธาน ซึ่งคาดว่าจะประชุมในวันที่ 26 ธ.ค. จากนั้นจะนำผลไปเจรจากับเอกชน ให้ได้ข้อยุติ และนำเสนอต่อคณะกรรมการกำกับฯ ตามมาตรา 43 ขณะเดียวกันก็ส่งร่างร่างสัญญาที่จะแก้ไขให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา เพื่อดำเนินการแก้ไขสัญญาตามมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ตามบทเฉพาะกาล มาตรา 68 ของ พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ปี 2562และส่งความเห็นมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอครม.พิจารณาต่อไป

“กระทรวงคมนาคมได้มีคณะทำงานศึกษาเรื่องนี้มาระยะหนึ่ง อย่างรอบคอบทั้งแง่ข้อกฎหมายและประโยชน์ของรัฐและประชาชน ถือเป็นซูปเปอร์ดีล จึงไม่น่าจะล่าช้า เพราะเป็นการดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ ครม.ได้มีมติมอบอำนาจให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและกระทรวงคมนาคมดำเนินการ อยู่ที่อัยการสูงสุดจะพิจารณาร่างสัญญาอย่างไร”

สำหรับการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2(Double Deck) และก่อสร้างทางขึ้น-ลงเชื่อมเข้าศูนย์คมนาคมพหลโยธิน และสถานีกลางบางซื่อ เพื่อแก้ปัญหาจราจร ซึ่งทางเอกชนเสนอลงทุนเพื่อแก้ปัญหาจราจรทางด่วนทั้งระบบนั้น จะต้องแลกกับการต่อสัญญาอีก 15 ปี ซึ่งเรื่องนี้ ถือเป็นคนละเรื่องกับข้อพิพาท 17 คดี ขณะที่การดำเนินการจะเป็นในระยะต่อไป เนื่องจากจะต้องมีการดำเนินการศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อน

ดังนั้น นอกจากกระทรวงคมนาคมจะเสนอครม.ถึงแนวทางการยุติข้อพิพาทแล้ว จะเสนอครม.เพื่อขอให้ กทพ. ดำเนินการศึกษาการแก้ปัญหาจราจรทั้งระบบขนทางด่วน ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบ Double Deck ,ทางเชื่อมขึ้นลง รวมถึงโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ซึ่งมีความพร้อมในการลงทุนแล้ว ด้วยเงินจากกองทุน TFF โดยบอร์ด กทพ.จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ในเดือนม.ค. 2563 ซึ่งทางด่วน N 2 จะสามารถแบ่งเบาปริมาณจราจรจากระบบทางด่วน จากฝั่งแจ้งวัฒนะไปทางเกษตร ได้ถึง 40% และเสนอครม.ในการดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนทำให้เกิดปัญหาข้อพิพาทและคดีต่างๆ จะส่งเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินการต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น