“พาณิชย์” ประเมินผลสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้าระยะแรก เผยบรรยากาศการค้าดีขึ้นแน่ เหตุคลายกังวลสงครามการค้าไม่บานปลาย เศรษฐกิจโลกดีขึ้น และไทยจะส่งออกได้มากขึ้น แนะผู้ส่งออกไทยเร่งส่งออกสินค้าเจาะจีนต่อ หลังที่ผ่านมาชิงส่วนแบ่งจากสหรัฐฯ มาได้ และเร่งกระชับมิตรคู่ค้า จัดกิจกรรมรักษาส่วนแบ่งในสหรัฐฯ ให้คงอยู่ สู้สินค้าจีนที่มีโอกาสกลับคืนสู่สหรัฐฯ
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯ และจีนมีความคืบหน้าการเจรจายุติสงครามการค้า โดยสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าระยะแรก (Phase-1 Deal) ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า แม้สหรัฐฯ และจีนจะยังไม่เปิดเผยเนื้อหาข้อตกลงระยะแรกอย่างเป็นทางการ โดยอยู่ในขั้นตอนการทบทวนทางกฎหมายและขัดเกลาถ้อยคำก่อนเข้าสู่กระบวนการลงนามต่อไป แต่การยืนยันจากทั้งสองประเทศจะช่วยให้บรรยากาศทางการค้าดีขึ้น ช่วยคลายความกังวลว่าสงครามการค้าจะไม่ลุกลามไปถึงการขึ้นภาษีนำเข้าเต็มจำนวน ช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนขยายตัวดีขึ้น และส่งผลต่อเนื่องในการกระตุ้นเศรษฐกิจโลก รวมทั้งมีผลดีต่อไทยที่จะส่งออกได้เพิ่มขึ้น
สำหรับรายละเอียดของข้อตกลงบางส่วนที่ปรากฏออกมา ในส่วนของสหรัฐฯ ตกลงในประเด็นดังนี้ 1. ยกเลิกการขึ้นภาษี 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ครอบคลุมสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวิดีโอเกม โทรทัศน์ วิทยุ จอคอมพิวเตอร์ และสินค้าอื่นผู้บริโภคอื่นๆ เช่น นาฬิกา ของเล่น รองเท้าและเครื่องแต่งกาย (กำหนดเดิมวันที่ 15 ธ.ค. 2562) 2. ปรับลดภาษีสินค้า 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เหลืออัตรา 7.5% (จากเดิม 15% และบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2562) ทั้งนี้ จะยังคงภาษี 25% สำหรับสินค้ามูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่จีนตกลงในประเด็น 1. การซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในเวลา 2 ปี โดยจีนเน้นย้ำว่าจะต้องสอดคล้องกับความต้องการตลาดและเป็นไปตามข้อตกลงภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) 2. ลดอุปสรรคทางการค้าในภาคการบริการ เช่น การเงินสาขาการธนาคาร การประกันภัย และหลักทรัพย์ 3. แก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับการบังคับถ่ายทอดเทคโนโลยี และละเว้นการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศเพื่อการครอบครองเทคโนโลยีต่างชาติ 4. ละเว้นการดำเนินนโยบายค่าเงินที่สร้างความได้เปรียบทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม
นอกจากนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ยังได้เปิดเผยว่า เนื้อหาของข้อตกลง Phase-1 Deal ประกอบด้วยประเด็นสำคัญเชิงโครงสร้างและการขยายการค้าระหว่างกัน ได้แก่ ทรัพย์สินทางปัญญา การถ่ายทอดเทคโนโลยี สินค้าเกษตร การบริการทางการเงิน อัตราแลกเปลี่ยน การขยายการค้า (ครอบคลุมสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร สินค้าเกษตรและอาหารทะเล พลังงาน และภาคบริการ) และกลไกการระงับข้อพิพาท พร้อมกันนี้ สหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าเจรจาข้อตกลงระยะสอง (Phase-2 Deal) ทันทีด้วย
น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า ในข้อตกลงระยะแรกไม่มีการระบุเงื่อนไขให้จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ไทยจึงควรเร่งใช้โอกาสในการทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ต่อไป โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยสามารถทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ในจีนได้ดี เช่น อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป อาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เครื่องประดับ และเครื่องสำอาง และสิ่งมีชีวิต ส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต ซึ่งที่ผ่านมา ในช่วง 3 ไตรมาสปี 2562 พบว่าสินค้าเหล่านี้ จีนนำเข้าจากสหรัฐฯ ลดลง 31.9% แต่นำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น 1.5%
ส่วนการลดภาษีนำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ อาจทำให้ไทยได้ประโยชน์ลดลงจากการเบี่ยงเบนทางการค้า (Trade Diversion) เนื่องจากสินค้าจีนจะกลับเข้าไปในตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งไทยควรกระชับมิตรผู้นำเข้าควบคู่กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดให้มีเสถียรภาพ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ ทดแทนสินค้าจากจีน เช่น สินค้าเกษตรกรรม อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป เคมีภัณฑ์และเม็ดพลาสติก ยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักร เครื่องมือ และส่วนประกอบ เหล็กและอลูมิเนียม และของใช้ในบ้านและสำนักงาน โดยในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2562 สินค้าเหล่านี้สหรัฐฯ นำเข้าจีนลดลง 14% แต่นำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น 2.9%