เอเอฟพี – จีนประกาศพักการขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มจากสินค้าสหรัฐฯซึ่งถึงกำหนดเริ่มบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (15 ธ.ค.) นี้ หลังจากวอชิงกันกับปักกิ่งประกาศการหยุดยิงครั้งสำคัญในสงครามการค้าของพวกเขาเมื่อวันศุกร์ (13) ที่ผ่านมา
จีนจะพักการขึ้นภาษีศุลกากรในอัตรา 10% และ 5% จากสินค้าเข้าอเมริกันบางรายการตามที่ได้เคยแถลงเอาไว้ รวมทั้ง “จะยังคงพักการขึ้นภาษีศุลกากรจากรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ซึ่งทำในสหรัฐฯ ต่อไปอีก” ประกาศในวันอาทิตย์ (15) ของกระทรวงการคลังจีนระบุ
ความเคลื่อนไหวของปักกิ่งครั้งนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตกลงให้ยุติการขึ้นภาษีศุลกากรใหม่ๆ จากสินค้าแดนมังกร โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้า “เฟส 1” ของประเทศทั้งสอง
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จีนก็แถลงในวันศุกร์ (13) ว่า ได้ตกลงกับสหรัฐฯในดีลระยะที่ 1 ซึ่งในเนื้อหาข้อตกลงยังมีหัวข้ออื่นๆ ด้วย เป็นต้นว่า การยกเลิกมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรที่ได้ประกาศไปแล้ว และการปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา
ทั้งสองประเทศยังไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลงใหม่นี้อย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้รับการจับตามองว่าเป็นการผ่าทางตันครั้งสำคัญของการเผชิญหน้าทางการค้าที่ดำเนินมา 21 เดือนแล้ว ระหว่าง 2 ประเทศซึ่งมีฐานะเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 และอันดับ 2 ของโลก
นอกเหนือจากการขึ้นภาษีศุลกากรที่มีผลบังคับใช้อยู่แล้ว ก่อนหน้า ดีล เฟส 1 ทรัมป์ยังได้คุกคามที่จะเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้น 15% ตั้งแต่วันอาทิตย์ (15) จากสินค้าจีนรวมแล้วมีมูลค่าประมาณ 160,000 ล้านดอลลาร์ ในนี้มีทั้งสินค้าผู้บริโภคซึ่งเป็นที่นิยมในสหรัฐฯ อย่างเช่น อุปกรณ์เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ และเสื้อผ้า
ทางฝ่ายจีนก็เคยแถลงไว้ว่า จะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษี 25% จากรถยนต์สหรัฐฯ และ 5% จากชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ อันเป็นมาตรการที่ได้ถูกระงับเอาไว้ก่อนตั้งแต่เมื่อต้นปีนี้โดยปักกิ่งบอกว่าเพื่อเป็นการแสดงไมตรีจิต