รอยเตอร์/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯและเจ้าหน้าที่จีนในวันศุกร์(13ธ.ค.) ต่างแถลงยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงการค้า "เฟส1" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในนั้นรวมถึงจะทยอยลดระดับมาตรการรีดภาษีที่อเมริกากำหนดเล่นงานสินค้านำเข้าจากจีน
อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเจาะจงต่อปริมาณสินค้าภาคการเกษตรของสหรัฐฯที่ปักกิ่งยินดีจัดซื้อ ซึ่งเป็นประเด็นอุปสรรคสำคัญของการเจรจาต่อรองที่ยาวนาน
"เราบรรลุข้อตกลงเฟส 1 ที่มีขนาดใหญ่มากกับจีน" ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์ในตอนเช้าวันศุกร์(13ธ.ค.) พร้อมระบุว่าเจ้าหน้าที่จีนยินยอมเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างมากมายและจัดซื้อสินค้าด้านการเกษตร, พลังงานและสินค้าอุตสาหกรรม รวมถึงอื่นๆอีกเยอะแยะ ในปริมาณมหาศาล"
ทรัมป์บอกต่อว่าสหรัฐฯยินยอมระงับแผนขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 160,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ และปรับมาตรการรีดภาษีที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันเหลือ 7.5%
สำนักงานผู้แทนการค้าสหสหรัฐฯระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในตอนเช้าวันศุกร์(13ธ.ค.) ว่าข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงทรัพย์สินทางปัญญา, การถ่ายโอนเทคโนโลยี, ภาคการเกษตร, การบริการทางการเงิน, ค่าเงินและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
ทั้งนี้ทางสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯบอกว่าอเมริกาจะยังคงมาตรการเรียกเก็บภาษี 25% สินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์ไว้ต่อไป แต่จะปรับลดการรีดภาษีอีกอันลงครึ่งหนึ่งเหลือ 7.5% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์
ในการเปิดแถลงข่าวช่วงค่ำวันศุกร์(13ธ.ค.)ตามเวลาในกรุงปักกิ่ง เจ้าหน้าที่จีนยืนยันเช่นกันว่าทั้งสองประเทศประสบความสำเร็จในความคืบหน้าครั้งสำคัญของการเจรจาข้อตกลงการค้าเฟส1 และเห็นพ้องในเนื้อหาของข้อตกลงดังกล่าว
คำแถลงครั้งนี้มีขึ้น 1 วันหลังจากทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์ ระบุว่า สหรัฐฯใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนแล้ว “เรากำลังใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่กับจีน พวกเขาต้องการทำข้อตกลง เช่นเดียวกับเรา” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
หวัง โชเหวิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีพาณิชย์ และรองผู้แทนการค้าระหว่างประเทศของจีน บอกกับผู้สื่อข่าว่าวอชิงตันตกลงที่จะค่อยๆยุติรีดภาษีสินค้าจีน ส่วน เหลียว หมิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีคลัง ระบุว่าจีนจะไม่บังคับใช้มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากอเมริกา ตามแผนเดิมที่เตรียมไว้สำหรับตอบโต้มาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯในวันอาทิตย์นี้(15ธ.ค.)
ในส่วนของหวัง ก็ยืนยันเช่นกันว่าข้อตกลงดังกล่าว รวมไปถึงการยกระดับปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา, ขยายการเข้าถึงตลาด, ปกป้องสิทธิต่างๆของบริษัทต่างชาติทั้งหลายในจีน ประเด็นที่เป็นแก่นกลางเสียงคร่ำครวญของสหรัฐฯต่อนโยบายทางเศรษฐกิจที่คับแคบของปักกิ่ง
สื่อมวลชนสหรัฐฯรายงานว่าจีนยอมใช้งบประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์ในการเข้าซื้อสินค้าด้านการเกษตรของอเมริกา อันเป็นข้อเรียกร้องหลักของทรัมป์ แต่เจ้าหน้าที่จีนไม่ได้ให้ตัวเลขใดๆระหว่างการแถลงข่าวในกรุงปักกิ่ง
โดย หวัง ระบุเพียงว่า "ทั้งสองประเทศบรรลุข้อในเนื้อหาของข้อตกลงการค้าและเศรษฐกิจเฟส1 ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องในย่างก้าวต่อไป ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินขั้นตอนต่างๆที่จำเป็น ในนั้นรวมถึงขั้นตอนทางกฎหมาย ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจะเจรจากันเพื่อเตรียมการอย่างเจาะจงสำหรับลงนามในข้อตกลงดังกล่าวอย่างเป็นทางการต่อไป"
"หลังจากลงนามแล้ว หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะยึดมั่นในข้อตกลง ทำงานหนักเพื่อปฏิบัติตามเนื้อหาต่างๆที่เกี่ยวข้องของข้อตกลงการค้าเฟส1" ผู้ช่วยรัฐมนตรีพาณิชย์จีนกล่าว
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา ทรัมป์ เปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์(13ธ.ค.) ว่า จีน อาจจะสั่งซื้อสินค้าการเกษตรของสหรัฐฯถึงระดับ 50,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากแถลงก่อนหน้านี้ว่าเขาจะลดระดับมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
นอกจากนี้แล้วเขายังเผยด้วยว่ารัฐบาลของเขาจะใช้มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออยู่เป็นเครื่องไม้เครื่องมือในการงัดข้อกับปักกิ่ง ในขณะที่สหรัฐฯเตรียมเดินหน้าหาทางเจรจาการค้าเฟส 2 กับจีน พร้อมระบุว่า "จีนต้องการเริ่มเจรจาเฟส 2 ของข้อตกลงในทันที มันเป็นกรอบเวลาที่ผมสนับสนุน"