รอยเตอร์/บลูมเบิร์ก/มาร์เก็ตวอตช์ - วอลล์สตรีทพุ่งแรงและน้ำมันปิดบวกในวันพฤหัสบดี(12ธ.ค.) หลังสื่อมวลชนรายงานว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและจีนบรรลุ "ข้อตกลงการค้าบางส่วน" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และรอเพียงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อนุมัติเท่านั้น ปัจจัยนี้ฉุดราคาทองคำปรับลด
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 220.75 จุด (0.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 28,132.05 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 26.94 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,168.57 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 63.27 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,717.32 จุด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างบุคคลใกล้ชิดกับการเจรจา ระบุว่าคณะผู้แทนเจรจาของสหรัฐฯบรรลุเงื่อนไขต่างๆในข้อตกลงการค้า "เฟส1" กับจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้รอเพียงแค่การเห็นชอบจากทรัมป์เท่านั้น
บุคคลรายดังกล่าวบอกกับบลูมเบิร์กด้วยว่าคณะที่ปรึกษาด้านการค้ามีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดีทรัมป์ ตอน 14.30น.(ตามเวลาท้องถิ่น) เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลง และอาจมีการเปิดแถลงข่าวไม่นานหลังจากนั้น อย่างไรก็ตามทางโฆษกทำเนียบขาวปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
รายงานข่าวมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์ ระบุว่าสหรัฐฯใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนแล้ว "เรากำลังใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่กับจีน พวกเขาต้องการทำข้อตกลง เช่นเดียวกับเรา" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการเจรจา รายงานเช่นกันว่าทำเนียบขาวบรรลุข้อตกลง "ในหลักการ" กับจีน สำหรับคลี่คลายสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมานาน 17 เดือน พร้อมคาดหมายว่าทำเนียยขาวจะมีการแถลงหลังจากนี้ในวันพฤหัสบดี(12ธ.ค.) "ยังคงอยู่ระหว่างการวางเกณฑ์ข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่พวกเขาบรรลุข้อตกลงในหลักการแล้ว" แหล่งข่าวระบุโดยไม่ได้ให้รายละเอียดไปมากกว่านี้
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี(12ธ.ค.) แหล่งข่าว 2 คนที่ใกล้ชิดกับการเจรจา เปิดเผยว่าในความพยายามบรรลุข้อตกลงการค้าเฟส1 คณะผู้แทนเจรจาสหรัฐฯเสนอปรับลดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่บังคับใช้ในปัจจุบันสูงสุด 50% และระงับมาตรการรีดภาษีรอบใหม่ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันอาทิตย์นี้(15ธ.ค.)
ข้อเสนอดังกล่าวบ่งชี้ว่าทำเนียบขาวพร้อมที่จะยุติการทำสงครามการค้ากับจีนที่ได้ดำเนินมาเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง และได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
พวกผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าเชื่อว่าหากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ระงับมาตรการรีดภาษีรอบใหม่ เจ้าหน้าที่ปักกิ่งก็คงจะตอบโต้ด้วยการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเพิ่มเติม และอาจระงับการเจรจาไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายน 2020
มาตรการรีดภาษีที่จะบังคับใช้ในวันที่ 15 ธันวาคม จะเล่นงานสินค้านำเข้าต่างๆจากจีนมูลค่าเกือบ 160,000 ล้านดอลลาร์ ในนั้นรวมถึงเครื่องเล่นวิดีโอเกมและจอคอมพิวเตอร์
จีนและสหรัฐฯเห็นพ้องกันในเดือนตุลาคม ที่จะหาข้อสรุปของข้อตกลงการค้าเบื้องต้น แต่ปักกิ่งไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้พวกเขาสัญญาว่าจะซื้อสินค้าภาคการเกษตรในปริมาณมหาศาล ขณะเดียวกันจีนก็ต้องการให้สหรัฐฯถอนมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ปักกิ่งเคยคู่แก้แค้นหากว่าสหรัฐฯขยายวงข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองชาติให้ลุกลามบานปลาย
ข่าวคราวที่ว่าสหรัฐฯและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟส 1 เรียบร้อยแล้ว ไม่นานหลังจาก ทรัมป์ ออกมาแย้มว่าวอชิงตันใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับปักกิ่ง ดันราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี(12ธ.ค.) ปิดในแดนบวก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 42 เซ็นต์ ปิดที่ 59.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 48 เซ็นต์ ปิดที่ 64.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยดังกล่าวผลักนักลงทุนเมินสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และฉุดราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(12ธ.ค.) ขยับลง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,472.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
