สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเผยไกด์ไลน์ "แฟรนไชส์" คลอดแล้ว กำหนดพฤติกรรมที่เป็นข้อห้าม ที่ห้ามทำไว้ 6 ข้อ เพื่อช่วยสร้างความเป็นธรรมในการทำธุรกิจระหว่างเจ้าของแฟรนไชส์กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ ระบุจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.63 เป็นต้นไป
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณา พฤติกรรมทางการค้า ที่ไม่เป็นธรรม และโฆษกคณะกรรมการ เปิดเผยว่า ประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ พ.ศ.2562 ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2562 และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.2563 เป็นต้นไป โดยไกด์ไลน์ในธุรกิจแฟรนไชส์ฉบับนี้ จะช่วยจัดระบบการค้าให้มีธรรมาภิบาล และมีหลักปฏิบัติที่ชัดเจนในการสร้างบรรทัดฐานการปฏิบัติทางการค้าให้ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์ให้เป็นระบบและมาตรฐานสากล และจะช่วยพัฒนาระบบการค้าในธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีความเข้มแข็งและเกิดประสิทธิภาพต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
สำหรับไกด์ไลน์ในธุรกิจแฟรนไชส์ ได้กำหนดพฤติกรรมที่เป็นข้อห้ามและอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 57 แห่งพ.ร.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ไว้จำนวน 6 ข้อ ได้แก่ 1.การกำหนดเงื่อนไขที่จํากัดสิทธิแฟรนไชส์ซี โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น ให้แฟรนไชส์ซีต้องซื้อสินค้าที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าแฟรนไชส์ หรือต้องซื้อวัตถุดิบในปริมาณที่สูงกว่าความต้องการใช้จริง 2.การกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมหลังทำสัญญา โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น ให้แฟรนไชส์ซีซื้อสินค้านอกเหนือจากที่กำหนดไว้ 3.การห้ามแฟรนไชส์ซีซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ผลิต ผู้จำหน่ายหรือผู้ให้บริการรายอื่น โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร 4.การห้ามแฟรนไชส์ซีขายลดราคาสินค้าที่เน่าเสียง่าย โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร 5.การกำหนดเงื่อนไขที่แตกต่างกันระหว่างแฟรนไชส์ซี โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และนำไปสู่การเลือกปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม 6.การกำหนดเงื่อนไขที่ไม่เหมาะสมอื่น ๆ นอกเหนือจากการรักษาคุณภาพและมาตรฐานตามสัญญา
นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม แฟรนไชส์ซอร์ต้องเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญให้แก่แฟรนไชส์ซีทราบก่อนตัดสินใจทำสัญญา เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ แผนการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ สิทธิในเครื่องหมายการค้า และการต่อ แก้ไข ยกเลิกสัญญา รวมทั้งในกรณีที่แฟรนไชส์ซอร์ จะเปิดสาขาใหม่เองนั้น จะต้องแจ้งแฟรนไชส์ชีที่มีสาขาอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่สุดทราบและให้สิทธิในการเปิดสาขาใหม่แก่แฟรนไชส์ซีรายนั้นก่อน
“ประกาศฉบับนี้ ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ควรศึกษาแนวทางการพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ให้เข้่าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดมาตรา 57 แห่งพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ซึ่งมีกำหนดโทษปรับทางปกครองในอัตราไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด”นายสันติชัยกล่าว