xs
xsm
sm
md
lg

เจาะพฤติกรรม ทำตลาดคน Gen Z

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคที่มีบทบาทและมีความสำคัญมากขึ้นคือกลุ่มเจนแซด (Gen Z) อายุ 10-24 ปี ซึ่งกลุ่มนี้เป็นลูกของเจนเอ็กซ์ (Gen X) และอีกกลุ่มที่จะมีบทบาทมากขึ้นคือ เจนอัลฟา (Gen ALPHA) อายุต่ำกว่า 9 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของเจนวาย (Gen Y)

ทั้งนี้ ในที่นี้จะอธิบายไปที่เจน Z มากเป็นพิเศษ เพราะเจน Z จะเป็นเดอะนิว เพาเวอร์ เจเนอเรชัน

ดร.ดั่งใจถวิล อนันตชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทจ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การทำตลาดที่จะเจาะเข้าหากลุ่มเจน Z นี้ถือว่าค่อนข้างยากเพราะเป็นกลุ่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างจากคนรุ่นอื่นอย่างมาก

แก่นหลักของเจน Z เช่น มักจะเป็นกลุ่มที่ไม่พูดหรือให้ความสำคัญต่อความเป็นเพศชายหรือเพศหญิง แต่จะเปิดใจกว้างรับว่าในโลกนี้ไม่ได้มีแค่ชายหรือหญิงเท่านั้น เพราะจากผลสำรวจมีจำนวนมากถึง 56% ที่ยอมรับและไม่ปิดกั้นเกี่ยวกับเรื่องเพศ

อีกทั้งคนเจน Z มีความภักดีต่อแบรนด์สินค้าน้อยมาก หรือภักดีต่อองค์กรน้อยเช่นกัน การทำงานในที่เดียวองค์กรเดียวในเวลาหลายปีมักจะไม่เกิดขึ้น เพราะคนรุ่นนี้มีความเชื่อมั่นว่าการที่ได้ทำสิ่งใหม่ๆ ย่อมมีความสำคัญมากกว่าความมั่นคงในที่เดิม ดังนั้น การเปลี่ยนแบรนด์สินค้าหรือเปลี่ยนงานเปลี่ยนองค์กรจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเสมอ

แต่คนกลุ่มนี้มักมีความต้องการเลือกทำงานในองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อสิ่งแวดล้อม

หลักที่จะเอาชนะใจคนกลุ่มเจน Z ที่ง่ายสำหรับนักการตลาดก็คือ “G R E A T”

ทั้งนี้ ความหมายแต่ละตัวคือ G คือ GENDER คนรุ่นนี้จะแสดงออกอย่างชัดเจนให้คนอื่นรู้ว่า เป็นใคร และจะไม่ค่อยสนใจเรื่องการแบ่งเพศ สามารถยอมรับความแตกต่างที่เกิดขึ้นได้ จะไม่ยึดติดว่ามีแต่เพศชายกับเพศหญิงเท่านั้น ซึ่งมีตัวอย่างของประเด็นนี้จากสายการบินแห่งหนึ่ง ที่ประกาศเวลาต้อนรับบนเครื่องบิน โดยกล่าวคำว่า กู้ดมอร์นิ่ง เอเวอรีบอดี้ (Good Morning Everybody) ซึ่งหมายถึงทุกคนแต่ไม่ได้ระบุเพศ แทนคำประกาศเดิมที่กล่าวว่า กู้ดมอร์นิ่ง เลดี้ แอนด์ เจนเทิลแมน

R คือ REAL คนรุ่นนี้มักอยากจะเป็นอะไรที่อยากเป็นให้ได้ ดังนั้น จึงต้องพยายามที่จะเข้าให้ถึงความต้องการให้มากที่สุด

E คือ ENVIRONMENTAL CONCERN ต้องยอมรับว่าคนรุ่นนี้เกิดมาในยุคที่เรียกได้ว่ามีเทคโนโลยีทันสมัยมากมาย ขณะเดียวกัน ก็ต้องเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เสียไป สภาพอากาศเป็นพิษ แตกต่างจากในอดีต จึงกล่าวได้ว่าเจอแต่เรื่องที่เป็นปัญหามากกว่าคนในรุ่นก่อนที่เจอปัญหาธรรมชาติเหล่านี้น้อยกว่า ดังนั้น การทำตลาดเจาะคนรุ่นนี้ต้องเน้นไปที่สิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างกรณีของแพกเกจจิ้งก็เป็นตัวปัญหาที่เห็นชัด

จากเดิมที่ผู้ผลิตจะเน้นไปที่ 3P คือ Protect คือการป้องกันการกระแทกสินค้าในบรรจุภัณฑ์, Promote จะต้องสามารถโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าและแบรนด์บนแพกเกจจิ้งได้ด้วย และ Preserve ต้องเป็นเรื่องการทำให้สินค้ายังมีสภาพดีอยู่

แต่การทำตลาดกับคนรุ่นนี้ ผู้ผลิตบางรายเริ่มไหวตัวแล้ว มีการปรับแพกเกจจิ้งใหม่ ที่ผลิตขึ้นมาจะเน้นไปที่ 3R คือ Reduce, Reuse และ Recycle

A คือ ACTION คนรุ่นนี้จะเป็นคนที่คิดแล้วทำเลยไม่รอช้า และทำอะไรแล้วต้องหวังผลให้มีผลกระทบที่ดีมากในวงกว้าง

T คือ TRANSPARENCY คนรุ่นนี้มักให้ความสำคัญต่อการทำอะไรที่มีความโปร่งใส มีความถูกต้อง ไม่ต้องการอะไรที่มีเลศนัย หรือไม่โปร่งใส ไม่ชัดเจน ดังนั้น ธุรกิจควรคำนึงถึงความโปร่งใส ที่ไม่มีอะไรคอยปิดบังหรือแอบแฝง เพราะคนรุ่นนี้หากเห็นอะไรที่ไม่เข้าท่าไม่เข้าทีจะพยายามค้นหาคำตอบที่ถูกต้องให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของ ดร.ธิติมา ไชยมงคล ระบุว่า กลุ่ม Gen Z คือกลุ่มประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 10-24 ปี เกิดระหว่างปี 2538-2552 เติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่อยู่แวดล้อมรอบตัว มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เรียนรู้ได้รวดเร็ว และอยู่กับสื่อดิจิทัลโดยกำเนิด ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนโลกออนไลน์ ซึ่งในประเทศไทยมีจำนวนประชากรกลุ่มนี้ประมาณ 13 ล้านคน แบ่งสัดส่วนเป็นหญิง 48% และชาย 52% อีกทั้งกลุ่มนี้ก็กำลังเข้ามาสู่วัยแรงงาน (first jobber) และคาดการณ์กันว่าภายในปี 2563 คน Gen Z จะมาเป็นกำลังหลักในตลาดแรงงานของประเทศกว่า 20%


กำลังโหลดความคิดเห็น