เผยบัตร Premium Lane ยังซื้อขายผ่านทัวร์-บริษัทเอกชนได้เหมือนเดิม ทอท.ยันตรวจสอบเข้ม ห้ามใช้ช่องทาง Priority Lane ผิดประเภท แต่ยังเจอที่ ตม.เป็นพันใบ แฉเทคนิคปั๊ม “รูปดอกไม้ หรือใช้ตัวอักษรย่อ” เป็นรหัสเพื่อรู้กันว่ามาจากส่วนไหนเพื่อเก็บค่าใช้จ่ายได้ ล่าสุดบางเจ้าขึ้นราคาขาย อ้างถูกตรวจสอบหนัก และเชื่อว่าสุวรรณภูมิยังเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของผู้มีอำนาจบางกลุ่มต่อไป
จากกรณีที่ นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศาได้นำเสนอข่าวมีการหาผลประโยชน์ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยพบมีขบวนการร่วมมือกันขายบัตรผ่านช่องทางพิเศษ (Premium Lane) ให้แก่ผู้โดยสารทั่วไป ผ่านทัวร์ และบริษัทเอกชนซึ่งทำให้มีผลประโยชน์มหาศาลเกิดขึ้นจากธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากมีการจำหน่ายบัตร Premium Lane ในราคาตั้งแต่ 200-1,000 บาทต่อใบ อีกทั้งยังเป็นการดำเนินการที่ผิดระเบียบหลักเกณฑ์ ขณะที่ผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในฐานะผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ออกมาย้ำถึง 2 ครั้งว่า ช่องทาง Priority Lane จัดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารกรณีพิเศษตามกฎหมาย เช่น เจ้าหน้าที่ทูต ลูกเรือ ผู้พิการ และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยคอยตรวจสอบ ซึ่งผู้โดยสารที่สามารถผ่านช่องทางนี้ได้จะต้องมีหนังสือเดินทาง บัตรโดยสารชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจ และบัตร Premium Lane ที่ต้องมีเที่ยวบิน และชื่อผู้โดยสารในบัตรที่นั่งตรงกับหนังสือเดินทาง
นอกจากนี้ ทอท.ยังระบุว่ามีแนวทางในการปฏิบัติงานที่เป็นไปตามมาตรฐาน โดยจะเข้มงวดในการตรวจสอบผู้ที่เข้าใช้ช่องทาง Priority Lane รวมถึงผู้ถือบัตร Premium Lane ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, AOC และ ตม.มีการประสานการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาการใช้บัตรผิดประเภทโดยมิชอบ ซึ่งหาก ทอท.ตรวจพบการใช้บัตร Premium Lane ที่ไม่ถูกต้องจะมีการแจ้งให้ AOC และ ตม.ทราบต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า บัตร Premium Lane แต่ละใบจะมีรายละเอียด ชื่อผู้โดยสาร เที่ยวบิน วันที่เดินทาง และช่องที่ระบุ “Airline’s Stamp” ซึ่งสายการบินที่ผู้โดยสารใช้บริการจะประทับตราไว้สำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจ ของสายการบินนั้นๆ ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลในเดือน ก.ค. ภายหลังจากมีการนำเสนอข่าวไปแล้ว ยังพบมีการใช้บัตร Premium Lane ผ่านช่องทาง Priority Lane ที่ไม่เป็นไปตามที่ ทอท.ระบุไว้ เป็นจำนวนมาก ไม่น้อยกว่า 1,000-1,500 ใบ โดยมีจุดสังเกตที่ช่องประทับตราจะเป็นรูปดอกไม้ โดยมีข้อความกำกับ “MEMBER” และบัตรบางส่วนประทับตราอักษร BFS เป็นต้น แทนที่จะเป็นการประทับตราของสายการบิน ซึ่งจากการสอบถามได้รับข้อมูลว่าเป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงให้ทราบว่าบัตรดังกล่าวเป็นการซื้อขายผ่านกลุ่มใด เช่น ทัวร์ หรือเอกชน
แหล่งข่าวจากสนามบินสุวรรณภูมิให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เรื่องดังกล่าวมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรู้เห็นในการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากการจำหน่ายบัตร Premium Lane นั้นจะมีบริษัทเอกชนดำเนินการอย่างถูกต้องทำหน้าที่ผลิตและจำหน่ายบัตรให้สายการบินสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ แต่เหตุใดจึงมีการขายบัตรที่มีรูปแบบเดียวกันสำหรับผู้โดยสารทั่วไปที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขได้อีก ซึ่งที่บริเวณ ตม.จะเป็นจุดสุดท้ายที่มีการเก็บบัตรคืนเพื่อเคลียร์ค่าใช้จ่าย ซึ่งหลังจากมีข่าวเผยแพร่ออกไป พบว่า ตม.บางพลัดเริ่มตรวจสอบบัตรเข้มข้นขึ้น และมีการปฏิเสธบัตรที่ผ่านมาโดยไม่ถูกต้องตามประกาศของ ทอท. หรือไม่มีตราประทับของสายการบิน ขณะที่ยังพบว่ามีการขึ้นราคาบัตร Premium Lane ขั้นต่ำจากเดิม 200 เป็น 400 บาท กรณีซื้อผ่านทัวร์หรือเอเยนต์อีกด้วย ซึ่งคาดว่าเป็นการอ้างว่าถูกตรวจสอบทำให้ซื้อขายยากกว่าขึ้น
ทั้งนี้ บัตร Premium Lane มีขายตั้งแต่เปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และมีผลประโยชน์มหาศาล มีผู้มีอำนาจรู้เห็น จึงเชื่อว่าปัญหาจะไม่มีการแก้ปัญหา ขณะที่ต้องยอมรับว่ามีผู้โดยสารบางส่วนยอมจ่ายเพื่อแลกกับความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารประมาณ 61 ล้านคน ขณะที่ขีดความสามารถรองรับได้ 45 ล้านคนต่อปี ส่วนเฟส 2 อยู่ระหว่างก่อสร้างจะเสร็จปี 2563 เพิ่มขีดรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคนต่อปี ซึ่งยังไม่ทันกับอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร