“สนธิรัตน์” ชงทำความตกลงยอมรับร่วม (MRA) มาตรฐานยานยนต์ไทย-เวียดนาม แก้ปัญหาการส่งออกรถยนต์ไทยไปเวียดนามชะงัก เผยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสองประเทศเตรียมทำรายละเอียดร่วมกันแล้ว ย้ำไทยพร้อมเป็นฐานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้เวียดนาม และร่วมมือค้าผลไม้ และข้าว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 3 ณ กรุงฮานอย ว่า ได้หยิบยกประเด็นการออกระเบียบควบคุมการนำเข้ารถยนต์ของเวียดนาม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2561 ที่กำหนดให้รถยนต์ที่นำเข้าทุกรุ่น ทุกแบบ และทุกครั้ง ต้องตรวจสอบมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยกับห้องทดลองของรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งไทยได้เสนอให้เวียดนามจัดทำความตกลงยอมรับร่วม (MRA) มาตรฐานยานยนต์ไทย-เวียดนาม เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการขอเอกสารรับรองจากหน่วยงานรัฐ และแก้ปัญหาการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายที่หน่วยงานทั้งสองฝ่ายตรวจซ้ำในเรื่องเดียวกัน ซึ่งเวียดนามได้ตอบรับข้อเสนอของไทย และตกลงจะนำเรื่องการจัดทำ MRA เสนอต่อกระทรวงคมนาคมของเวียดนาม ที่เป็นหน่วยงานที่ดูแลกฎระเบียบดังกล่าวให้หารือร่วมกับไทยในการผลักดันให้มี MRA ร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาการส่งออกรถยนต์ของไทยมายังตลาดเวียดนามให้มีความสะดวกต่อไป
“เวียดนามยอมรับนำข้อเสนอของไทย และขั้นตอนจากนี้จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยไปหารือทางด้านเทคนิคร่วมกับกระทรวงคมนาคมของเวียดนาม เพื่อให้มีการจัดทำ MRA ร่วมกัน เพราะปัจจุบันเวียดนามมีห้องปฏิบัติตรวจสอบรถยนต์เพียง 1 แห่ง ซึ่งไม่เพียงพอ ทำให้การส่งออกรถยนต์ของไทยไปเวียดนามจากเดิมใช้เวลา 3-4 วัน เพิ่มเป็น 30 วัน” นายสนธิรัตน์กล่าว
สำหรับการส่งออกรถยนต์ไทยไปตลาดเวียดนามตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 ก.ค. 2561 มีจำนวน 1.17 หมื่นคัน ถือว่าลดลงไม่มาก โดยทั้งปี 2560 ที่ผ่านมาไทยส่งออกรถยนต์ไปเวียดนาม 3.37 หมื่นคัน
ทั้งนี้ ไทยยังได้ยืนยันกับเวียดนามว่าพร้อมที่จะเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ให้เวียดนาม เพื่อสนับสนุนนโยบายรถยนต์แห่งชาติของเวียดนาม และยังจะขยายความร่วมมือการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจในเรื่องผลไม้และข้าวด้วย
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้ตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าสองฝ่ายเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 จากปี 2560 ที่การค้าทั้งสองฝ่ายมีมูลค่า 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในด้านการลงทุน ไทยอยู่อันดับที่ 9 ในจำนวนประเทศที่มีการลงทุนในเวียดนาม โดยการลงทุนของไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2561) มี 493 โครงการ มูลค่า 1.01 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ได้ขอให้เวียดนามออกใบอนุญาตนำเข้าผลไม้ 2 ชนิด คือ มะม่วง และเงาะ ที่ไทยได้ยื่นขอตั้งแต่ปี 2558 จากปัจจุบันที่เวียดนามเปิดตลาดผลไม้ให้ไทยแล้ว 28 รายการ ขณะที่เวียดนามเสนอให้ฝ่ายไทยเร่งรัดการเปิดตลาดสินค้าผลไม้ 5 รายการ คือ เงาะ ส้มโอ เสาวรส ลูกน้ำนม และน้อยหน่า ที่เวียดนามได้ยื่นขอให้ไทยออกใบอนุญาตนำเข้าเมื่อปี 2560 และยังได้หารือถึงการเพิ่มความร่วมมือด้านสินค้า GI การเงิน เกษตร และศุลกากร รวมถึงการขอเวียดนามให้สนับสนุนไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลง CPTPP ด้วย