บล. เออีซี มองหุ้นไทยได้อานิสงส์ สหรัฐฯ-ยุโรป จับมืออยุติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมรถยนต์ และชิ้นส่วนรถยนต์ แนะจับตาผลการประชุมเฟด และการประชุมของ 5 ประเทศผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลก EU ให้กรอบดัชนี 1,680-1,725 จุด แนะลงทุนหุ้นผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 เด่น ชู HMPRO-SPALI-ANAN-QH-AP-SC-ORI-SNC-TKS-KKP-MC-SMPC
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ (1-3 ส.ค.) คาดได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังสหรัฐฯ และยุโรป ตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อเตรียมยุติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมรถยนต์ และชิ้นส่วนรถยนต์ ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลสงครามการค้าระหว่างสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองทางเทคนิคตลาดหุ้นไทยรอบนี้รีบาวนด์ขึ้นกว่า 100 จุด จากระดับต่ำสุด 1,584 จุด ซึ่งสัปดาห์นี้ SET Index มีโอกาสติดแนวต้านสำคัญ Downtrend Line ที่ 1,725 จุด คาดชะลอการปรับขึ้นต่อ และต้องระวังแรงขายทำกำไรส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ยังคงต้องจับต่อเนื่อง อาทิ การประเมินผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. นี้
แม้ข้อมูลจาก Fed Fund Futures คาดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ แต่ยังมีความไม่แน่นอนในส่วนของการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากล่าสุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด อาจนำไปสู่การขึ้นดอกเบี้ยที่เร่งตัวมากขึ้น
รวมทั้งการประชุมระหว่าง 5 ประเทศผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลก EU, แคนาดา, เม็กซิโก, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเตรียมมาตรการโต้ตอบและแผนรับมือหากสหรัฐฯ มีการเก็บภาษีนำเข้ายานยนต์เพิ่ม ตามผลสืบสวนตามมาตรา 232 ที่มีกำหนดเสร็จสิ้นช่วงสิ้นเดือน ส.ค. สร้างความไม่แน่นอนให้กับหุ้นกลุ่มยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
ขณะที่ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ยังไม่มีสัญญาณเชิงบวกต่อการเจรจารอบใหม่ จากเงื่อนไขของสหรัฐฯ ที่ตั้งไว้ค่อนข้างเข้มงวด เพิ่มการนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ และยกเลิกสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยี จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเพิ่มความระมัดระวังความผันผวนที่มาจากปัจจัยต่างประเทศ
ดังนั้น ประเมินว่าสัปดาห์นี้ SET Index มีโอกาสติดแนวต้านสำคัญ Downtrend Line ที่ 1,725 จุด คาดชะลอการปรับขึ้นต่อ และต้องระวังแรงขายทำกำไร และแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นมูลค่าไม่แพงและกำไรยังโตสดใส ดังนี้ 1.หุ้นค้าปลีกที่ช่วงไตรมาส 2/2561 ประกาศกำไรโตแกร่ง เช่น HMPRO กำไรโต 16.0% จากปีก่อน 2. หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่คาดกำไรยังสดใสในไตรมาส 2/2561 เช่น SPALI, ANAN, QH, AP, SC, ORI และ 3. หุ้นที่จ่ายปันผล (Div. Yield) สูงเกินปีละ 5% เช่น SNC, TKS, KKP, MC, SMPC
ส่วนในทางเทคนิคมองต่อเนื่องสัปดาห์นี้ SET จะขยับทดสอบแนวต้าน 1,715-1,725 จุด ตามลำดับ อย่างไรก็ดีควรระวังแรงขายแนวต้าน มองการขึ้นทดสอบแนวต้านของ SET เป็นโอกาสขายทำกำไร หรือกำหนด Trailing Stop กรณีปิดต่ำกว่า 1,680 จุด โดยกลุ่มที่คาดจะ Outperform สัปดาห์นี้ เลือกกลุ่มพาณิชย์ COMM มีหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ ROBINS, MC, GLOBAL และกลุ่มพลังงาน ENERG ได้แก่ ESSO, BPP