xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” นำทีมพาณิชย์ตรวจราคาอาหารจานด่วน-สินค้าอุปโภคบริโภค เผยยังไม่พบการปรับขึ้นราคา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สนธิรัตน์” นำทีมผู้บริหารพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตลาดกลางบางใหญ่ ไม่พบการปรับขึ้นราคา เผยได้ขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ให้ช่วยตรึงราคาช่วยเหลือผู้บริโภค เหตุน้ำมันและก๊าซหุงต้มที่ปรับขึ้นกระทบต้นทุนไม่มาก พร้อมแนะประชาชนพึ่งร้านอาหารหนูณิชย์ที่มีอยู่ 1.4 หมื่นแห่งทั่วประเทศ และใช้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐซื้อของถูกเพื่อลดค่าครองชีพ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารปรุงสำเร็จ ณ ศูนย์อาหารตลาดกลางบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์หลังจากที่ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ได้ปรับราคาเป็นถังละ 395 บาท (ถัง 15 กิโลกรัม) และมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าทั้งอาหารปรุงสำเร็จและสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะผลการศึกษาของกระทรวงพาณิชย์พบว่ามีต้นทุนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลในการปรับราคาได้

โดยจากการตรวจสอบพบว่า พ่อค้าแม่ค้ามีการจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) ในราคาเดิม ไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด ซึ่งได้ขอความร่วมมือให้มีการตรึงราคาเดิมเอาไว้ เพราะก๊าซหุงต้มที่เพิ่มขึ้นมีผลการศึกษาของกรมการค้าภายในออกมาว่ากระทบต่อต้นทุนการผลิตเพียงเล็กน้อยแค่ 15-20 สตางค์เท่านั้น

ส่วนสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผัก เนื้อสัตว์ ข้าวสาร และสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ยังคงมีการจำหน่ายเป็นปกติ ไม่พบว่ามีสินค้ารายการใดปรับขึ้นราคา และจากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้า ก็ไม่พบว่า มีการแจ้งปรับขึ้นราคาจากผู้ผลิตเข้ามาแต่อย่างใด สอดคล้องกับที่กระทรวงพาณิชย์ได้รับการยืนยันจากผู้ผลิตว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาในช่วงนี้ และเท่าที่ตรวจสอบกับกรมการค้าภายใน ก็ยังไม่มีผู้ผลิตรายใดยื่นเรื่องปรับขึ้นราคาเข้ามา

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ในการดูแลการบริโภคอาหารปรุงสำเร็จให้กับประชาชน กระทรวงพาณิชย์ได้มีทางเลือก โดยส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคอาหารปรุงสำเร็จจากร้านอาหารหนูณิชย์ ซึ่งมีราคาจำหน่ายไม่เกินจาน/ชามละ 25-35 บาท และเป็นอาหารที่มีความสะอาด ถูกสุขลักษณะ และปิดป้ายราคาชัดเจน โดยปัจจุบันมีจำนวนร้านหนูณิชย์มากถึง 14,157 ร้าน แยกเป็นในกรุงเทพฯ 4,689 ร้าน ภูมิภาค 9,434 ร้าน โดยประชาชนสามารถเลือกบริโภคอาหารปรุงสำเร็จจากร้านที่ ใกล้บ้านได้

สำหรับการลดภาระด้านการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้กลไกของร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยประสานผู้ผลิตจัดส่งสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาดเข้าไปจำหน่าย เพื่อช่วยลดภาระให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และประชาชนทั่วไป และล่าสุดกำลังจะประสานผู้ผลิตรายใหญ่ ให้จัดส่งสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด เพื่อนำไปจัดเป็นมุมธงฟ้า เพื่อให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเป็นร้านขายสินค้าราคาถูก หรือดิสเคาน์ช็อปอย่างถาวรด้วย ซึ่งหากดำเนินการสำเร็จ จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้อีกเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ยังได้ใช้กลไกของการจัดงานธงฟ้าราคาประหยัด นำสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด 20-40% ไปจำหน่ายให้กับประชาชนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน และหากมีความจำเป็น ก็จะพิจารณาจัดเพิ่มขึ้นต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น