“กบง.” เคาะลดราคาแอลพีจีเฉพาะภาคครัวเรือนขนาดถัง 15 กิโลกรัมลง 32 บาทต่อถังจาก 395 บาทต่อถัง ปัจจุบันเหลือ 363 บาท/ถัง มีผล 28 พ.ค. ยอมควักเงินกองทุนฯ อุดหนุน 10 บาท/ถัง รวมกับราคาตลาดโลกที่ประเมินจะลดลง ส่วนดีเซลตรึง 30 บาท/ลิตรช่วงรอขายบี 20
ผ่อนคลาย! กบง.กดราคาก๊าซหุงต้มลง 32 บาท/ถัง มีผล 28 พ.ค.-ตรึงดีเซล 30 บาท/ลิตรนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ว่า กบง.มีมติปรับลดราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เฉพาะภาคครัวเรือนที่ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 395 บาทต่อถัง (15 กิโลกรัม) ให้เหลือ 363 บาทต่อถัง (15 กก.) หรือปรับลดลงประมาณ 30 บาทต่อถัง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน
“ราคาแอลพีจีที่จะลดลงมาอยู่ 363 บาทต่อถัง 15 กก.รวมภาษีมูลค่าเพิ่มหรือลดลงประมาณ 32 บาทต่อถัง แบ่งเป็นการลดลงจากการประเมินราคาตลาดโลกที่แอลพีจีเริ่มลดลงที่คาดจะทำให้ราคาขายปลีกลดได้ประมาณ 20 บาทต่อถัง และอีกส่วนใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีแอลพีจีมาดูที่ประเมินไว้ประมาณ 10 บาทต่อถัง” นายศิริกล่าว
ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีแอลพีจีขณะนี้มีอยู่ 551 ล้านบาท ซึ่งการลดครั้งนี้คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 300 ล้านบาทต่อเดือน หากระดับราคาแอลพีจีตลาดโลกทรงตัวจะดูแลเสถียรภาพราคาแอลพีจีไปได้อีก 2 เดือน อย่างไรก็ตาม ราคาแอลพีจีตลาดโลก (คาร์โก้) ขณะนี้อยู่ที่ 543 เหรียญต่อตัน เริ่มลดลงจากเดิมที่ 580 เหรียญต่อตัน และประเมินว่าน่าจะลดลงได้ในระยะต่อไปเพราะเป็นช่วงฤดูร้อนที่ความต้องการใช้จะลดต่ำลง ซึ่งจะทำให้ราคาแอลพีจีกลับไปสู่ภาวะปกติที่ระดับ 353 บาทต่อถัง (15 กก.)
สำหรับผลกระทบราคาดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กบง.ได้เห็นชอบมาตรการลดผลกระทบด้วยการบริหารกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีน้ำมันที่มีอยู่ 3.05 หมื่นล้านบาทมาดูแลระหว่างที่รอการจำหน่ายไบโอดีเซลเกรดพิเศษบี 20 ที่จะมีราคาต่ำกว่าบี 7 ประมาณ 3 บาทต่อลิตรที่คาดว่าจะจำหน่ายให้กับรถบรรทุกและรถโดยสารขนาดใหญ่ใช้บริการปลาย มิ.ย.หรือต้น ก.ค.นี้ โดยจะตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร จากนั้นหากมีการจำหน่ายบี 20 แล้วแต่ราคาน้ำมันยังผันผวนในระดับสูงก็จะใช้เงินกองทุนฯ มาดูแลอุดหนุน 50% ของราคาที่จะปรับขึ้นเป็นขั้นตอนต่อไป
“กรมธุรกิจพลังงานได้เตรียมคู่มือปรับเครื่องยนต์เพื่อรองรับบี 20 แล้ว ซึ่งโครงการนี้เป้าหมายหลักเป็นการช่วยภาคการเกษตรผู้ปลูกปาล์ม เราจึงจะทำโครงการนี้เป็นการถาวรเท่าที่จะรักษาเสถียรภาพราคาปาล์ม” นายศิริกล่าว