นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายธัชชัย ศรีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายประสงค์ คงเคารพธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี และ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ร่วมกันแถลงข่าวเทศกาล “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ : Amazing Songkran 2018” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์อันเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้คงอยู่ต่อไป โดย ททท. ได้นำอัตลักษณ์ของวิถีไทยดังกล่าวมาเสริมสร้างให้มีความโดดเด่น เพื่อส่งเสริมให้เป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และสามารถสร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำในเศรษฐกิจฐานรากได้ในที่สุด
นายยุทธศักดิ์ สุภสร กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์นี้ ททท. ได้ส่งเสริมการจัดงานในพื้นที่ต่างๆ กระจายไปทั่วประเทศ อีกทั้งยังรณรงค์ให้คนไทยได้เห็นความสำคัญ ตระหนักถึงการได้ใช้เวลากับครอบครัว พร้อมทั้งสร้างกระแสการแต่งกายด้วยชุดไทยเข้าร่วมกิจกรรมทางประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในแนวคิด “กลับบ้าน แต่งไทยไปเล่นสงกรานต์” ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความเป็นไทย โดยกำหนดจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ขึ้นในจังหวัดเมืองรอง 5 จังหวัด ทุกภูมิภาค หรือ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ : Amazing Songkran 2018” ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากจังหวัดต่างๆ ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดจันทบุรี จังหวัดนครศรีธรรมราช และ จังหวัดสิงห์บุรี
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์จัดงาน “สงกรานต์
ดีโน่สินธุ์ ถิ่นคนน่ารัก” บนแนวคิดสงกรานต์รักษ์สิ่งแวดล้อม “น้ำมีวันหมด ใช้ทุกหยด อย่างรู้ค่า-ซิด แทน สาด” ระหว่างวันที่ 12 - 15 เมษายน 2561 ณ ลานวัฒนธรรม วัดสว่างคงคา อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมชมขบวนแห่และสรงน้ำหลวงพ่อองค์ดำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง จากวัดกลางพระอารามหลวง และร่วมเล่นน้ำกับไดโนเสาร์ พร้อมทั้งชมการเปิดตัวศิลปินลูกหลานชาวกาฬสินธุ์ “วงแพรวา จีจี้” ที่จะช่วยสร้างสีสันให้กับงานสงกรานต์ในปีนี้
นายธัชชัย ศรีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า จังหวัดกำแพงเพชร จัดงาน “สงกรานต์มงคล ก่อพระทรายน้ำไหล ยิ่งใหญ่พวงมโหตร” ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2561 ณ ถนนริมแม่น้ำปิงเชื่อมโยงถึงเกาะกลางแม่น้ำปิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เชิญชวนนักท่องเที่ยวลอดซุ้มน้ำมนต์ความยาวกว่า 100 เมตร ร่วมชมความงดงามของพวงมโหตรที่ใช้ตกแต่งสะพานข้ามสู่เกาะกลาง เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมก่อเจดีย์ทรายสืบสานประเพณีไทย ตลอดทั้งนำเสนอกิจกรรม Plogging เป็นกิจกรรมใหม่ มาจากคำว่า Pick up ผสมกับ Jogging เพื่อให้นักท่องเที่ยววิ่งเก็บขยะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความมีส่วนร่วมในการคืนสภาพพื้นที่บริเวณการจัดงานให้กลับมาสะอาดและน่าท่องเที่ยวต่อไป
ด้าน นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จังหวัดจันทบุรีจัดงาน “มหาสงกรานต์ตะปอน ตำนานแห่เกวียนผ้าพระบาท จันทบุรี” ระหว่างวันที่ 13 - 17 เมษายน 2561
ณ บริเวณ วัดตะปอนน้อย วันตะปอนใหญ่และวัดเกวียนหัก อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ร่วมชมพิธีโบราณการสวดและขบวนแห่เกวียนผ้าพระบาทที่สวยงาม เชิญร่วมกิจกรรมชักกะเย่อเกวียนผ้าพระบาทที่สนุกกสนาน ร่วมก่อเจดีย์ทราย 2561 กอง ชื่นชมกับวิถีท้องถิ่นโดยการชิมอาหาร “ร้อยรส-พันอย่าง” และการแสดงแสง เสียง ตามรอยเสด็จสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่มีตำนานอันประทับใจ เพื่อร่วมสืบสานความงดงามในช่วงเทศกาลสงกรานต์
สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้เตรียมจัดงาน “เทศกาลมหาสงกรานต์ แห่นางดานเมืองนครศรีธรรมราช” ระหว่างวันที่ 11 - 15 เมษายน 2561 ณ บริเวณถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ชมความงดงามของ แสง เสียง ในขบวนแห่นางดาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของพิธีโล้ชิงช้า ร่วมพิธีบวงสรวงและพิธีอัญเชิญพระอิศวร ตลอดทั้งร่วมชมความงดงามของการรำเสนง (รำ สะ เหนง) ซึ่งเป็นการฟ้อนรำที่หาโอกาสชมได้ยาก และมีเฉพาะที่นครศรีธรรมราชที่เดียวเท่านั้น พร้อมเสริมสิริมงคลในพิธีปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 6 แหล่ง
นายประสงค์ คงเคารพธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วม “นุ่งโจง
ห่มสไบ เล่นน้ำแบบไทยๆ ณ สิงห์บุรี” ระหว่างวันที่ 12 - 15 เมษายน 2561 ณ วัดโพธิ์เก้าต้น อำเภอ
ค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ชมขบวนหลวงพ่อโตโคตะมะและหลวงปู่ธรรมโชติ ร่วมพิธีตักน้ำและปลุกเสกน้ำทิพย์ ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านระจันเคารพนับถือ โดยชาวบ้านจะแต่งกายแบบบ้านระจัน ใช้ภาษาพูด และกิจกรรมรูปแบบประเพณีแบบโบราณ เล่นน้ำสงกรานต์โดยใช้กะลา เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงาม และสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งกิจกรรมต่างๆ สอดแทรกเรื่องความศรัทธา ความสามัคคี ความรักชาติและเต็มไปด้วยความเป็นสิริมงคลด้วยในเวลาเดียวกัน ทั้งยังมีการแสดง แสง เสียง ชุดน้ำทิพย์ ศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน สู่มหาสงกรานต์บ้านระจัน” อีกด้วย
นายยุทธศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากพื้นที่เมืองรองทั้ง 5 เมืองแล้ว ททท. ได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมสงกรานต์วิถีไทยในกรุงเทพมหานครและ 12 พื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ททท. คาดการณ์ว่า ในช่วงเทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์นี้ (12 - 16 เมษายน 2561) นักท่องเที่ยวชาวไทยจะมีการเดินทางท่องเที่ยวทั้งสิ้น ประมาณ 3 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 อันเกิดจากปัจจัยสนับสนุน 3 ประการหลัก ได้แก่ การประกาศวันหยุดเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรี คือ วันที่ 12 เมษายน 2561
รวมวันหยุด 5 วันต่อเนื่อง มาตรการลดหย่อนภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง และ ททท. กระตุ้นการเดินทางไปยัง 55 เมืองรองอย่างเต็มที่ ในขณะที่สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่า จะมีการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประมาณ 530,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 9,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 โดยที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีอัตราการเติบโตสูง ได้แก่ นักท่องเที่ยวจากประเทศฝรั่งเศส ไต้หวัน เกาหลีใต้ รัสเซีย และ ออสเตรเลีย ตามลำดับ ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีน ยังคงมีจำนวนสูงสุด โดยคาดการณ์ว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวกว่า 165,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 รวมการใช้จ่ายจากการกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ กว่า 19,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 อันจะแสดงให้เห็นถึงการบรรลุนโยบายลดการกระจุกตัวเชิงพื้นที่และการกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ผู้ว่าการ ททท. กล่าวในตอนท้ายว่า กิจกรรมดังกล่าวจะสร้างการรับรู้ในแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชนใหม่ และทำให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวมากขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในจังหวัดเมืองรองให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 20 ภายในปี 2561 ตามนโยบายและแผนของ ททท. รวมถึงการสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยว สร้างมูลค่าเพิ่ม กระจายรายได้อย่างยั่งยืน และครบวงจร พร้อมทั้งเชิญชวนให้ทุกคนร่วมสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมและประเพณีที่งดงามนี้ โดยการ “กลับบ้าน แต่งไทยไปเล่นสงกรานต์” ด้วยชุดไทยท้องถิ่นตามประเพณีและคติความเชื่อท้องถิ่น ควบคู่กับการตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว พร้อมทั้งเชิญชวนให้ชาวไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามภูมิภาคและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ให้เกิดความรักและความประทับใจในอัธยาศัย มิตรไมตรี ของคนชาวไทย ตอกย้ำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ยังคง “Amazing” ในหัวใจของนักท่องเที่ยวทุกคน