xs
xsm
sm
md
lg

กองทุน FTA เจ๋ง ดันสกลนครขึ้นแท่นนครแห่งครามธรรมชาติโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กองทุน FTA เจ๋งจริง ดันสกลนครเป็น “นครแห่งครามธรรมชาติโลก” ได้สำเร็จ เผยเป็นจังหวัดแรกของไทย และหนึ่งเดียวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หลังสภาหัตถศิลป์โลกส่งทีมมาตรวจสอบและให้การรับรอง โดยให้การยอมรับกระบวนการผลิตใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ไม่มีเคมีภัณฑ์เจือปน

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สภาหัตถศิลป์โลก (World Crafts Council) ได้ส่งทีมมาตรวจประเมินคุณสมบัติการผลิตผ้าย้อมครามที่สกลนครและที่ชุมชน ซึ่งผลการตรวจสอบปรากฏว่าผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่ตั้งไว้ คือ เป็นการทอผ้าที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ไม่มีเคมีภัณฑ์เจือปน และได้ประกาศรับรองให้จังหวัดสกลนครเป็น “นครหัตถศิลป์โลกเจ้าแห่งครามธรรมชาติ” (World Craft City for natural Indigo) ถือเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย และเป็นหนึ่งในประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับการรับรองนี้

“ถือเป็นความสำเร็จของกองทุน FTA ที่ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการหัตถกรรมสิ่งทอในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อให้ต่อสู้กับการเปิดเสรีอาเซียน โดยกองทุนได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือให้กับสหกรณ์คลัสเตอร์หัตถศิลป์อีสานวงเงิน 12.5 ล้านบาท เริ่มดำเนินการในปี 2557-58 เป็นงบดำเนินการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่สหกรณ์ฯ ซึ่งหลังจากเข้าไปช่วยเหลือแล้ว ทางกลุ่มก็มีการพัฒนาการผลิตตัวสินค้าจนเป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในและต่างประเทศ จนนำมาสู่การได้รับการรับรองในครั้งนี้” นายอดุลย์กล่าว

สำหรับผลงานของกองทุน FTA ได้เข้าไปช่วยเหลือสหกรณ์คลัสเตอร์หัตถศิลป์อีสาน ได้มีการดำเนินกิจกรรมหลากหลาย ได้แก่ การสำรวจปัญหา ความต้องการ และสถานการณ์ด้านการผลิตควบคู่กับการประเมินโอกาสและความต้องการทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสิ่งทอโดยใช้ตลาดนำ หรือออกแบบตามความต้องการของต่างประเทศโดยการดึงอัตลักษณ์ของพื้นที่มาเป็นจุดขายโดยนักออกแบบที่มีประสบการณ์ รวมถึงการพัฒนากระบวนการผลิตสีผงจากธรรมชาติให้มีโทนสี และเฉดสีที่หลากหลาย การพิมพ์ผ้าด้วยสีย้อมธรรมชาติโดยใช้น้ำมันจากพืชเป็นสารยึด และการพัฒนากระบวนการพิมพ์และเขียนผ้าที่มีความสม่ำเสมอ เป็นต้น

นายอดุลย์กล่าวว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมากรมฯ ได้อนุมัติโครงการภายใต้กองทุน FTA ไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 7 โครงการ คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 16 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ โดยกรมฯ มั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้ผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องที่มาขอรับความช่วยเหลือจากกองทุน FTA สามารถปรับตัว และเตรียมความพร้อมในการสู้การเปิดเสรีทางการค้าได้แน่นอน และในปี 2561 อยู่ระหว่างการเปิดรับสมัครโครงการที่จะขอให้กองทุน FTA ช่วยเหลือ

ส่วน 7 โครงการ ได้แก่ โครงการยกระดับการบริหารจัดการธุรกิจโรงแรมระดับ 3 ดาวในเขตจังหวัดชายแดนไทย–ลาว (นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร), โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องสำอางสมุนไพรไทยเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) และสากล, โครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (ระยะที่ 3), โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตโคเนื้อ สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลางโพนยางคำ จำกัด สำหรับการแข่งขันในเขตการค้าเสรี (FTA) และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC), โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และพัฒนาระบบบริหารจัดการของสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด, โครงการพัฒนานวัตกรรมการบริหารคุณภาพผลิตภัณฑ์นม และโครงการเสริมสร้างศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดสินค้ากระเทียมไทย หอมแดงไทย และหอมหัวใหญ่ไทยปลอดโรค ภายใต้ความตกลงการเปิดเสรีทางการค้า


กำลังโหลดความคิดเห็น