xs
xsm
sm
md
lg

“ฟอลคอน” รุกโปรโมต “นมข้นจืด” ลุยตลาดเบเกอรี่เต็มสูบ ทุ่ม 100 ล. เปิดแคมเปญ Falcon Professional Bakers ดันยอดโต 25%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฟอลคอน เดินหน้ารุกตลาดเต็มสูบ ชู “นมข้นจืด” เป็นสินค้าไฮไลต์ตลอดทั้งปี ล่าสุดทุ่มงบการตลาด 100 ล้านบาท ประเดิมเปิดตัวแคมเปญ “Falcon Professional Bakers” เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์นมข้นจืด ตรานกเหยี่ยว ฟอลคอน ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เจาะกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเบเกอรีทั่วประเทศ เดินหน้าทำการตลาดแบบ 360 องศาในทุกช่องทาง ปูพรมด้วยกิจกรรมโรดโชว์ พร้อมจับมือ 3 กูรูด้านเบเกอรีชื่อดังที่จะมาช่วยติดอาวุธองค์ความรู้ด้านการทำธุรกิจเบเกอรี เพื่อยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมเบเกอรีให้ยั่งยืนดังเจตนารมณ์ของฟอลคอน “คู่แท้มืออาชีพ” ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโต 25%

นางสาวยชญ์วัลย์ ติรกนกสถิตย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฟอลคอน กล่าวว่า “สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของฟอลคอนในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมทุ่มงบ 100 ล้านบาท รุกสร้างการรับรู้ และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผลิตภัณฑ์ “ฟอลคอน” ในกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยจะจัดสรรงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ “นมข้นจืด” ผ่านแคมเปญการตลาด “Falcon Professional Bakers” พร้อมย้ำจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นมข้นจืด คือ เป็นผลิตภัณฑ์นมแท้ๆ ที่ไม่ใช่ครีมเทียมข้นจืด มีขนาด 1 ลิตรที่บรรจุภัณฑ์ใช้สะดวก เปิดง่าย และประหยัดถึง 12% ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์นมข้นจืดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตสูงถึง 23% ด้วยปัจจัยบวกสนับสนุนจากธุรกิจเบเกอรี่ในประเทศไทยที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2559 ตลาดเบเกอรี่มีมูลค่าโดยรวมประมาณ 22,300 ล้านบาท (ข้อมูลจากเอสแอนด์พี ปี 2559) ทำให้บริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้
ยชญ์วัลย์ ติรกนกสถิตย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
นางสาวยชญ์วัลย์กล่าวต่อว่า “แคมเปญการตลาด “Falcon Professional Bakers” มีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ประกอบธุรกิจเบเกอรีไทย โดยจะมุ่งเน้นทำการตลาดแบบ 360 องศาในทุกช่องทาง อาทิ การจัดกิจกรรม “ฟอลคอน คืนรัง” ถือเป็นงานพบปะคู่ค้าของฟอลคอนที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จับมือกับ 3 เบเกอรีกูรูชื่อดัง นำโดยคุณพล ตัณฑเสถียร อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ และเชฟไก่-ธนัญญา ไข่แก้ว ที่จะมาช่วยติดอาวุธด้วยองค์ความรู้ด้านการทำธุรกิจเบเกอรี เทคนิคต่างๆ และเทรนด์ของเบเกอรีในปัจจุบัน เพื่อยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมเบเกอรีไทยให้ยั่งยืนดังเจตนารมณ์ของแบรนด์ฟอลคอนที่เป็น “คู่แท้มืออาชีพ” อีกทั้งยังมีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาผ่านช่องทางดิจิตอล และมีการติดตั้งสื่อ ณ จุดขายและร้านค้า เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาในร้าน มีการนำเสนอสูตรเครื่องดื่ม และเมนูเบเกอรีใหม่ๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานของผู้ประกอบการ และเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการบริโภคให้แก่ผู้บริโภคยุคใหม่นอกจากนี้ยังมีการสร้างประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ผ่านสถาบันสอนทำอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรีชั้นนำ ตลอดจนการให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านช่องทางดิจิตอล เช่น เฟซบุ๊ก และยูทูป เป็นต้น

“ปีที่ผ่านมาฟอลคอนประสบความสำเร็จในด้านการเข้าถึงผู้ประกอบการร้านเครื่องดื่มและกาแฟ ในปีนี้ฟอลคอนมุ่งขยายไปสู่กลุ่มผู้ประกอบการร้านเบเกอรี เพราะเห็นโอกาสและช่องว่างในการทำตลาดกลุ่มดังกล่าว พร้อมทั้งเตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเล็งช่องทางในร้านค้า รวมถึงการจัดเรียงผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มฐานลูกค้าและให้ลูกค้าเกิดการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอลคอนเพิ่มขึ้นกว่า 10% ในช่วง 6 เดือนแรก”

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ฟอลคอนมีทั้งหมด 2 แบรนด์ ได้แก่ นกเหยี่ยว ฟอลคอน มี 2 ผลิตภัณฑ์ คือผลิตภัณฑ์นมสำหรับปรุงอาหารและเบเกอรี หรือนมข้นจืด มีให้เลือกทั้งแบบกล่องขนาด 1,000 มล. และกระป๋องขนาด 368 มล. และผลิตภัณฑ์ครีมเทียมข้นหวานพร่องไขมัน ตรานกเหยี่ยว ฟอลคอน มีกระป๋องขนาด 380 กรัม และแบบถุงขนาด 2 กก. ในขณะที่ ฟอลคอน โพลเฟสชันแนล มี 3 ผลิตภัณฑ์ คือ ผลิตภัณฑ์ครีมเทียมข้นหวาน มีให้เลือกทั้งแบบกระป๋อง ขนาด 380 กรัม และแบบถุงขนาด 2 กก. ผลิตภัณฑ์นมข้นแปลงไขมันไม่หวาน มีทั้งแบบกระป๋อง ขนาด 370 มล. และแบบกล่องขนาด 1,000 มล. และผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีสำหรับตีฟอง ถือเป็นนวัตกรรมใหม่และเป็นรายแรกในประเทศไทยที่สามารถตีฟองนมได้ มีขนาด 1,000 มล.

“สำหรับเป้าหมายทางการตลาดของฟอลคอนในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้นกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีการเติบโต 20% ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์นมข้นจืดคาดว่าจะมีการเติบโตสูงถึง 18%” นางสาวยชญ์วัลย์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น