“กนอ.” จับมือกรมชลประทาน บีโอไอ เจโทร เจซีซี ลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์ซ้อมแผนป้องกันน้ำท่วม สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนและชุมชนรอบพื้นที่นิคมฯ บ้านหว้า บางปะอิน สหรัตนนคร จ.พระนครศรีอยุธยา ทุกนิคมฯ พร้อมรับมือ มั่นใจไม่ซ้ำรอยปี 2554
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อฐานการผลิตและการลงทุนของประเทศ ดังนั้น ในวันนี้ (22 สิงหาคม 2560) กนอ.จึงได้ประชุมชี้แจง และเฝ้าสังเกตการซ้อมแผนป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร และนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งชาวไทย และต่างชาติ รวมถึงชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว
“ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงฤดูฝนและยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง กนอ.ได้ตระหนักถึงการเตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมและมีการเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร กนอ.จึงได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กรมชลประทาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) องค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) และหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) เพื่อประชุมชี้แจง และเฝ้าสังเกตการซ้อมแผนป้องกันน้ำท่วม นิคมอุตสาหกรรม โดยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจและซ้อมแผนจำนวนมาก” นายวีรพงศ์กล่าว
สำหรับแผนป้องกันน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 3 แห่ง กนอ.ได้เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว โดยกำหนดดังนี้ 1. นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน มีพื้นที่ 1,962 ไร่ มีผู้ประกอบการ 93 ราย โดยมีระบบป้องกันน้ำท่วมในลักษณะก่อสร้างเขื่อนดินบดอัดแน่น โดยสันเขื่อนเป็นผนังคอนกรีตรูปตัวยู (RC Flood Wall) ระดับคันดินมีความสูงถึง 6 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง (MSL) มีความยาวเขื่อนประมาณ 10 กิโลเมตร
2. นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า มีพื้นที่ 2,500 ไร่ มีผู้ประกอบการ 125 ราย มีการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมในลักษณะทำเขื่อนคันดินบดอัดแน่น เสริมด้วยวัสดุป้องกันทนกัดเซาะ (Grocell Stones Gro Textile) โดยมีระดับความสูงประมาณ 5.4 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง (MSL) โดยรอบพื้นที่โครงการมีสันกว้าง 3.5 เมตร และฐานกว้าง 22 เมตร มีความยาวของเขื่อนประมาณ 11 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม กนอ.ได้จัดทีมตรวจสอบสภาพเขื่อนในภาพรวมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พร้อมใช้งานได้ตลอด
3. นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร มีพื้นที่ 2,050 ไร่ มีผู้ประกอบการ 52 ราย ได้เตรียมความพร้อมการขุดลอกคลองระบายน้ำฝน และรางระบายน้ำฝนภายในนิคมฯ มีการติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำ และสื่อสารแจ้งผู้ประกอบการให้รับทราบทุกวัน มีการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเป็นเขื่อนคันดินบดอัด และติดตั้งวัสดุเสริม Free Board ขนาด 20 ซม. ที่มีระดับความสูงประมาณ 8.2 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง (MSL) โดยมีความยาวของเขื่อนประมาณ 7.2 กิโลเมตร
นอกจากนี้ กนอ.ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเตรียมความพร้อม และตรวจสอบทั้งในด้านเทคนิคและกายภาพ อันได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) โดยได้มีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของคันป้องกันน้ำท่วม และประสิทธิภาพของระบบระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ และเตรียมความพร้อมในส่วนอุปกรณ์ให้เพียงพอ และพร้อมใช้ตลอดเวลา เช่น ความพร้อมของสถานีสูบน้ำ เครื่องสูบน้ำ ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชม. รวมทั้งความพร้อมของเขื่อนเคลื่อนที่ติดตั้งเร็วของ กนอ. และที่สำคัญในทุกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมีการตรวจสอบปรับปรุงซ่อมแซมคันดินรอบนิคมฯ ให้อยู่ในสภาพที่ดี และมีความมั่นคงแข็งแรงอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมดังกล่าวข้างต้นแล้ว กนอ.ได้ให้ความสำคัญต่อการซ้อมแผนเผชิญเหตุอุทกภัยเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ และเป็นการเตรียมความพร้อมด้านการป้องกัน การช่วยเหลือ การอพยพ การบรรเทาความสูญเสียอย่างมีหลักวิธีการ ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจที่ชัดเจนให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม