"สมคิด" เร่งเครื่องปฏิรูปเศรษฐกิจไทยให้เห็นเป็นรูปธรรมก่อนเลือกตั้ง ดัน"อุตตม"ปรับอุตสาหกรรมเกษตรสู่Bioeconomy และคลัสเตอร์ท่องเที่ยวบริการ ดึงเอสเอ็มอี เกษตรเชื่อมโยง. แย้มครม.สัปดาห์อัดมาตรการการเงินหนุนเอสเอ็มอี "อุตตม"จ่อชงครม.คลอดแผนพัฒนาBioeconomy นอกพื้นที่อีอีซี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาถกฐาพิเศษในการเป็นประธานเปิดงาน Thailand Industry Expo 2007 เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า ได้มอบหมายให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งเน้นการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรให้มากขึ้น รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ และการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีไปสู่ระบบดิจิทัลโดยความร่วมมือกับต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อที่จะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0
"2-3 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามแนวทางของรัฐบาลที่วางไว้ 2 ปีที่ผ่านมาทั้งหมดนี้จะต้องให้เห็นภายในปีนี้เพราะหลังจากมีการเลือกตั้งไปแล้วการปฏิรูปในรูปแบบปกติและการเปลี่ยนแปลงประเทศไม่ใช่ของง่ายเลย"นายสมคิดกล่าว
ทั้งนี้ภารกิจดูแลเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งก่อนหน้าจีดีพีโต0.8% ผ่านมา 2 ปีจีดีพีโต 3.3% ส่งออกมิ.ย.โต 11,7% จีดีพีไตรมาส2 ก็น่าจะดีกว่าไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามการส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปยังค่อนข้างต่ำ แม้จะเติบโตแต่ก็มีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งโดยพบว่าสินค้าเกษตรแปรรูปคิดเป็น 9%ส่งออกรวมจึงควรต้องปรับให้ส่งออกเพิ่มด้วยการมุ่งสู่สินค้าแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่มไปสู่เศรษฐกิจฐานชีวภาพ(Bioeconomy)
ดังนั้นในเรื่องนี้จึงมอบหมายให้เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)คนใหม่ให้ทำงานแรกด้วยการเน้นการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมการเกษตรแปรรูปมากขึ้น โดยต้องการเห็นคนไทยมีการลงทุนมากขึ้นเพราะสามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรได้
นอกจากนี้ได้มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมเข้ามาพัฒนาและส่งเสริมคลัสเตอร์บริการและการท่องเที่ยวซึ่งที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบโดยเฉพาะเชื่อมโยงกับการเกษตร เอสเอ็มอี การท่องเที่ยวจะเกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจหลายด้านและมีมูลค่าสูง
สำหรับการส่งเสริมเอสเอ็มอีในส่วนของมาตรการการเงินนั้นคาดว่าคลังน่าจะสรุปเข้าสัปดาห์หน้าได้ถึงแนวทางการเพิ่มวงเงินการค้ำประกัน จาก23% เป็น 30% ให้เอสเอ็มอีโดยบรรษัทค้ำประกันสินเชื่อขนาดกลางและย่อม(บสย.)วงเงิน 8 หมื่นล้านบาทและการจัดหาเงินสำหรับรายย่อย(Micro SMEs)
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมกล่าวว่า กระทรวงอุตฯเตรียมผลักดันผู้ประกอบการในกลุ่มท่องเที่ยวและการบริการโดยจัดเงินผ่านกองทุนมาสนับสนุนให้มากขึ้น ขณะที่คลัสเตอร์การเกษตรก็ได้ลงนามร่วมกับเอกชนในการดำเนินงานอุตสาหกรรม 4.0 โดยแนวทางจะมุ่งรวมกลุ่มอุตสาหกรรมหรือคลัสเตอร์ เช่น Bioeconomy
"เรากำลังทำแผนที่จะทำBioeconomy เพิ่มทั้งภาคอีสาน เหนือ กลาง เพื่อที่จะนำเสนอครม.ได้ในอีก 2 สัปดาห์หน้าซึ่งต่อยอดและอิงรูปแบบในพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ก็จะเป็นคลัสเตอร์เชื่อมโยงกันกับการเกษตรที่เพิ่มมูลค่า"นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้ยังประสานไปยังการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)ที่จะจัดพื้นที่ส่งเสริมเอสเอ็มอีขึ้นมาเฉพาะในทุกพื้นที่นิคมฯทั้งในเรื่องการจัดขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมกับเอสเอ็มอี การบริการครบวงจร มีโรงงานต้นแบบให้เช่าราคาพิเศษ ห้องแล็บ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาถกฐาพิเศษในการเป็นประธานเปิดงาน Thailand Industry Expo 2007 เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า ได้มอบหมายให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งเน้นการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรให้มากขึ้น รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ และการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีไปสู่ระบบดิจิทัลโดยความร่วมมือกับต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อที่จะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0
"2-3 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามแนวทางของรัฐบาลที่วางไว้ 2 ปีที่ผ่านมาทั้งหมดนี้จะต้องให้เห็นภายในปีนี้เพราะหลังจากมีการเลือกตั้งไปแล้วการปฏิรูปในรูปแบบปกติและการเปลี่ยนแปลงประเทศไม่ใช่ของง่ายเลย"นายสมคิดกล่าว
ทั้งนี้ภารกิจดูแลเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งก่อนหน้าจีดีพีโต0.8% ผ่านมา 2 ปีจีดีพีโต 3.3% ส่งออกมิ.ย.โต 11,7% จีดีพีไตรมาส2 ก็น่าจะดีกว่าไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามการส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปยังค่อนข้างต่ำ แม้จะเติบโตแต่ก็มีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งโดยพบว่าสินค้าเกษตรแปรรูปคิดเป็น 9%ส่งออกรวมจึงควรต้องปรับให้ส่งออกเพิ่มด้วยการมุ่งสู่สินค้าแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่มไปสู่เศรษฐกิจฐานชีวภาพ(Bioeconomy)
ดังนั้นในเรื่องนี้จึงมอบหมายให้เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)คนใหม่ให้ทำงานแรกด้วยการเน้นการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมการเกษตรแปรรูปมากขึ้น โดยต้องการเห็นคนไทยมีการลงทุนมากขึ้นเพราะสามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรได้
นอกจากนี้ได้มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมเข้ามาพัฒนาและส่งเสริมคลัสเตอร์บริการและการท่องเที่ยวซึ่งที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบโดยเฉพาะเชื่อมโยงกับการเกษตร เอสเอ็มอี การท่องเที่ยวจะเกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจหลายด้านและมีมูลค่าสูง
สำหรับการส่งเสริมเอสเอ็มอีในส่วนของมาตรการการเงินนั้นคาดว่าคลังน่าจะสรุปเข้าสัปดาห์หน้าได้ถึงแนวทางการเพิ่มวงเงินการค้ำประกัน จาก23% เป็น 30% ให้เอสเอ็มอีโดยบรรษัทค้ำประกันสินเชื่อขนาดกลางและย่อม(บสย.)วงเงิน 8 หมื่นล้านบาทและการจัดหาเงินสำหรับรายย่อย(Micro SMEs)
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมกล่าวว่า กระทรวงอุตฯเตรียมผลักดันผู้ประกอบการในกลุ่มท่องเที่ยวและการบริการโดยจัดเงินผ่านกองทุนมาสนับสนุนให้มากขึ้น ขณะที่คลัสเตอร์การเกษตรก็ได้ลงนามร่วมกับเอกชนในการดำเนินงานอุตสาหกรรม 4.0 โดยแนวทางจะมุ่งรวมกลุ่มอุตสาหกรรมหรือคลัสเตอร์ เช่น Bioeconomy
"เรากำลังทำแผนที่จะทำBioeconomy เพิ่มทั้งภาคอีสาน เหนือ กลาง เพื่อที่จะนำเสนอครม.ได้ในอีก 2 สัปดาห์หน้าซึ่งต่อยอดและอิงรูปแบบในพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ก็จะเป็นคลัสเตอร์เชื่อมโยงกันกับการเกษตรที่เพิ่มมูลค่า"นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้ยังประสานไปยังการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)ที่จะจัดพื้นที่ส่งเสริมเอสเอ็มอีขึ้นมาเฉพาะในทุกพื้นที่นิคมฯทั้งในเรื่องการจัดขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมกับเอสเอ็มอี การบริการครบวงจร มีโรงงานต้นแบบให้เช่าราคาพิเศษ ห้องแล็บ